เรียกว่าเป็นละครกระแสแรงแห่งปีสำหรับละคร “มาตาลดา” ทำเอานางเอกสาวอย่าง “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ” ยิ้มแก้มปริ กับกระแสตอบรับที่ได้
“ดีใจมากๆ (ลากเสียงยาว) เลยค่ะ ดีใจมากที่เวลาเจอใครทุกคนก็เรียกมาตา (เสียงสูง) ดีใจมากเลยค่ะ เต้ยเชื่อว่าทีมผู้จัดและนักแสดงทุกคน ทีมงานทุกคนมีความสุขมากๆ กับโมเมนต์ตอนนี้ค่ะ เป็นเรื่องที่เต้ยติดตามเรตติ้งตลอด เล่นทวิตเตอร์ตลอดเวลาละครออนแอร์ และดูยอดออนไลน์ที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดีใจมากๆ เลยค่ะ”
ถามว่าถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซเลยไหม ?
“สำหรับเต้ยคิดว่าเป็นผลงานที่รักและอินแบบสุดๆ เลยค่ะ และดีใจมากๆ ที่ได้อยู่ในเรื่องนี้ ผลงานชิ้นนี้ มันทั้งมีคุณค่ากับสังคมและด้วยตัวมาตาเองที่เต้ยก็เข้าใจตัวละครนี้ค่อนข้างที่จะเข้าใจเขา ถึงแม้ในบทจะเขียนว่าเพี้ยน หนูก็เข้าใจ (หัวเราะ)”
รู้สึกยังไงกับผลงานชิ้นนี้ ?
“รู้สึกเป็นผลงานที่มีคุณค่ากับสังคมจริงๆ ค่ะ มีทั้งเรื่องครอบครัวด้วย และคำสอนของพ่อเกรซที่เอามาสอนคนได้หลายๆ คน สอนการเลี้ยงลูกได้ด้วย และหลายๆ อย่างของการเป็นมาตาลดาทั้งเรื่องเลยนะคะ เต้ยว่าทั้งหมดเขาสอนว่าให้คนมีความสุขง่ายขึ้น ตอนแรกๆ พูดตรงๆ ว่าทุกคนก็คิดว่ามันจะเป็นยังไง เพราะเป็นละครแนวที่ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่เข้มข้นหน่อย อันนี้เป็นทางใหม่จริงๆ ปรากฎว่าทุกคนโอบแขนรับเรื่องนี้จริงๆ แปลว่ามันมีช่องให้ละครที่สว่างด้วยเหมือนกันนะรู้สึกดีใจสุดๆ และอยากให้มาตาได้ฮีลใจคนเยอะๆ จริงๆ ค่ะ
จะบอกว่าทุกๆ ตัวละครในเรื่องมีความสำคัญหมดเลยค่ะ รวมถึงอากง อาม่าด้วยน่ารักมากๆ เลย เต้ยว่าความแปลกอีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ก็คือมีพาร์ตของความรักของอากง อาม่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีเรื่องของ LGBTQ ซึ่งเป็นตัวนำเรื่องเลยด้วยซ้ำ รู้สึกว่าทุกๆ องค์ประกอบมันดีและฮีลใจคนได้หมดเลยค่ะ เต้ยรู้สึกว่านี่คือซอฟต์พาวเวอร์ของละครไทย มันมีอาหารเยอะมากๆ ซึ่งเต้ยนั่งดูเอง ถ่ายเองยังคิดเลยว่าพรุ่งนี้ต้องสั่งเผือกหิมะแล้ว”


การร่วมงานกับ “พี่ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ” ในเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“พี่ชายคือคนที่เต้ยอยากร่วมงานด้วยมากๆ อยู่แล้วค่ะ จำได้เลยว่าโมเมนต์แรกที่เจอพี่ชายที่กอง ตอนที่เวิร์กช็อปเต้ยดันมีความเสี่ยงเรื่องโควิด ก็เลยไม่ได้ไปเจอเขา และพอครั้งแรกที่ถ่ายแล้วเจอเขา จำได้เลยว่ามองตากันก็เรียกพ่อเกรซ แล้วก็วิ่งไปกอดเขาเลย โดยที่เชื่อสนิทใจเลยว่านี่คือพ่อเกรซ เพราะพี่ชายเขาก็เดินเป็นพ่อเกรซมาเลย ก็รู้สึกไม่ผิดหวังเลยกับการที่ได้ร่วมงานกับพี่ชายและดีใจมากๆ ด้วยค่ะ
อยากให้รอดูทุกๆ ซีนที่มีพี่ชาย มันจะมีความหมายมากๆ และมันจะอิ่มใจสุดๆ ไปเลยค่ะ ไม่ต้องละลายพฤติกรรมเลยค่ะ มันเหมือนซิ้งค์กันตั้งแต่ครั้งแรกที่วิ่งเข้าไปเรียกพ่อเกรซ มันตรงนั้นเลยค่ะ แทบจะไม่ได้ต้องทำเวิร์กช็อปอะไรแล้ว
ส่วนแก๊งแม่นมก็บันเทิงมาก แฮปปี้มาก ทุกครั้งที่เข้าฉากกับยาย (ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร) มันยากมากที่จะกลั้นขำ ไม่ตามบทเลย มีตามบทอยู่ 1 ครั้ง สมมติเล่น 4 เทก ไม่เหมือนกันสักเทกเลย คนตัดก็ต้องเลือกเอาแหละว่าต้องเอาอันใดอันหนึ่ง จะมายำรวมกันไม่ได้”


ประทับใจอะไรที่สุด ?
“เลือกยากมากเลยค่ะ ก็ประทับใจทีมผู้จัดแล้วกันค่ะ เหมือนสิ่งที่พี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร) เขาอยากที่จะส่งให้กับคนดูจริงๆ เขาบอกกับเต้ยว่าในสังคมสมัยนี้มันมีแต่ความใจร้าย มีแต่ความเครียด ความทุกข์เต็มไปหมดเลย เขาอยากให้มาตาเป็นตัวแทนของความสุขให้คนดูได้ดูและซึมซับมันไป อีกคนคือเจมส์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ค่ะ เจมส์จิเป็นเป็นหนึ่งได้ดีที่สุดเลยค่ะ และน่ารักมากๆ จริงๆ สำหรับเต้ย เจมส์ก็เป็นมาตาคนนึงในกองเหมือนกันค่ะ เพราะว่าเวลาเขามาก็จะสดใสมาเลย แฮปปี้”
หลายคนบอกว่า “มาตา” ต้องเป็น “เต้ย” เท่านั้น
“มีคนบอกว่าถ้าไม่ใช่เต้ย จะเป็นใครที่เล่นได้ คำพูดนี้สำหรับเต้ยคิดว่ามันเป็นคำชมมากๆ ค่ะ ดีใจมากๆ ที่มีคนพูดแบบนี้ ได้ยินคนพูดแบบนี้เยอะเลย ก็ดีใจค่ะ ตอนนี้ทุกคนไม่เรียกเต้ยแล้ว เรียกมาตา (หัวเราะ) ล่าสุดไปเดินป่าที่เดนมาร์ก เจอคุณแม่คนนึงที่เป็นคนไทยแล้วเขาก็ไปเดินป่าเหมือนกัน เขาเรียกเต้ยว่าน้องบาดาลตา ก็โอเค มาตาลดาแหละ (ยิ้ม)ตอนนี้ถึงประมาณตอนที่ 13 ก็ยังเหลืออีกค่ะ มีทั้งหมด 21 ตอน แต่ต้องบอกว่ามันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และอุ่นใจขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน ตอนอ่านบทเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่น้ำตามันไหลออกมาเอง แต่น้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ มันอิ่มใจไปหมดเลยค่ะหลังๆ นี้ก็ฝากติดตามด้วยค่ะ”