ยึดฉายานักปั้นมือทองของเมืองไทยมาเป็นสิบปี เพราะ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ปั้นเด็กในสังกัดเป็นซุปตาร์ตัวท็อปแถวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น “อั้ม พัชราภา , ป๋อ ณัฐวุฒิ , เวียร์ ศุกลวัฒน์ , ณเดชน์ คูกิมิยะ , เจมส์ มาร์ ฯลฯ แต่ล่าสุด ได้เปิดใจผ่านรายการแฉว่าเตรียมวางมือปั้นดาราแล้ว
“ไม่ปั้นดาราแล้ว เหนื่อยแล้ว อยู่ตรงนี้มา 25 ปีเต็มๆเหมือนกับสภาวะจิตใจเราบางทีไม่ทนต่อความเจ็บช้ำในบางเรื่องได้ เลยอยากมีความสุขแล้ว ส่วนเหตุผลที่เลิกปั้นดารา อยากใช้เงินที่หามา อยากทำประโยชน์เพื่อสังคม ใครมีปัญหาในวงการบันเทิงให้เดินมาบอก ช่วยได้เราก็ช่วย เราก็เจออะไรมาเยอะ คิดบวก ถ้ามีมายด์เซ็ตบวกๆ อบอุ่น สบายใจดี คิดเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี แล้วเราก็มีความสุข เราจะไม่มีความทุกข์กับปัญหา

เมื่อก่อนไม่นอนเลย นอนวันละชั่วโมง ต้องออกไปเที่ยว เราทำอาชีพปั้นดารา เด็กก็ชอบเที่ยวกัน สมัยก่อนก็อาร์ซีเอ ข้าวสาร ตอนนี้คนถามว่าทำไมไม่ไปไหนเลย ทำไมอยู่แต่บ้าน เพราะชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิต นับจำนวนนอนคืนนึงได้ 3 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง สมัย “พี่ป๋อ” (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) ถ่ายละครถึงเช้า “พี่อั้ม” (พัชราภา ไชยเชื้อ) ถ่ายแม่นาค ทั้งวันทั้งคืน ถ่ายไปด้วยออกอากาศไปด้วย เราผ่านชีวิตตอนนั้นมาหมดแล้ว ก็คิดว่าต้องลำบากจนตายเหรอ คิดแบบนี้วนไปวนมา วนลูปเดิมๆ เกมือนเราต้องแก้ปัญหา เอา 365 วันคูณกับจำนวนปีที่ทำงานด้านวงการบันเทิง จำนวนวันทุกวันที่อยู่ต้องแก้ปัญหาของคนทุกคน เหมือนพ่อแม่มีลูก 3 คน ปัญหาที่แก้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าปัญหาที่เราแก้ ถ้าทำแบบเยอะๆหนักๆแบบนี้ กลัวภาวะซึมเศร้าจะกลับมาสู่ตัวเรา
เวลาอยู่กับเด็กๆก็ดุนะ บาคนดูแลไม่ไหว อบรมไม่ไหว ก็ส่งให้เพื่อน (มดดำ คชาภา) ช่วยดูแล ก็บอกเด็กว่าไปให้พี่มดดำสอนเลย (หัวเราะ) ซึ่งการดีอยู่เยอะๆอบอุ่นดี ที่ผ่านมาบางคนโดนตีหน้าก็เอามารักษา ใส่ฟัน เซ็นสัญญากันวันนี้ รุ่งเช้าจะมา เขารู้ว่าจะมาเป็นเด็กในสังกัดเอ ศุภชัย ก็จ้างคนมาทุบหน้าเลย ไม่ได้ทุบหน้าศัลยกรรมนะ ทุบให้หน้าเละเลย เหมือนว่าไม่ต้องให้เอ ศุภชัยปั้น ต่อยจนฟันเละหมดเลย เอก็เอามาซ่อม เราเซ็นสัญญาไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ

การปั้นดารามันง่าย แต่การปั้นของเอ 1 คนคือ 1 ชีวิต คนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีหลายคน แต่เรารับผิดชอบเขาแล้ว ทุกวันนี้ยังเลี้ยงดูแลอยู่เลย ส่งเรียนทุกคน ถ้าคนไม่สำเร็จก็ส่งเรียนให้เขาได้ประกอบอาชีพ
จริงๆการปั้นซุปตาร์คนนึงก็เหมือนการปั้นแบรนด์ 1 แบรนด์ เราต้องรู้ก่อนว่าคนนี้โจทย์เราจะให้เป็นนางเอก พระเอก หรือตัวร้าย ถ้าโจทย์เป็นพระเอก ต้องสวย ต้องหล่อ ต้องร้องเพลงเพราะ น้องๆของเอต้องเกรดเอจริงๆ ด้วยความที่เราต้องช่วยเองไม่ได้มีคนอื่นมาช่วยขนาดนั้น เพราะฉะนั้นถ้าของที่เรามีไม่ดีที่สุดเขาก็ไม่เลือก ฉะนั้นของที่เรามีต้องเป็นเพชรจริงๆ เขาถึงจะเลือก ถ้าของที่เรามีเท่าคนอื่น เขาก็เลือกคนอื่น
เกรดเอของเราคือ บางคนสวยหล่อมาแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ดัดฟัน แต่บางคนก็นิดๆหน่อยๆ ตาตกก็ยก ทำจมูก ฯลฯ เราเหมือนกุ๊กที่เตรียมพร้อมก่อนเสิร์ฟแล้ว แต่เด็กก็จะบอกว่าถ้าเอดุก็จะได้ดี (ยิ้ม) เมื่อก่อนเงินในธนาคารก็ไมได้มีเยอะ แต่ใจเราเต็มที่ก็ถึงไหนถึงกัน
ก็มีที่บางคนยังไม่ได้ถอนทุนคืนเลย เขาก็ไปแล้ว ด้วยเหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มายต์เซ็ตอาจจะไม่ตรงกัน ก็เลยอาจจะมายด์เซ็ตตรงกับที่อื่นมากกว่า ซึ่งเอก็เข้าใจ เราก็ยอม รู้สึกว่าเขาคงลำบาก ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ดิ้นรน ทุกวันนี้เอมีความสุขนะ ที่เหมือนเราปั้นคนๆนึงแต่เขาได้ไปช่วยหลายคน”