ขึ้นแท่น CEO สำหรับ”ไบร์ท วชิรวิชญ์” ที่เปิดตัวบริษัท Cloud9 Entertainment แถมความปังก็ไม่หยุดแค่นั้น เพราะว่าล่าสุดที่บินไปร่วมงาน “London Fashion Week” และความปังก็เกิดขึ้นเพราะหนุ่ม “ไบร์ท” ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตที่สร้างมูลค่าทางสื่อได้มากที่สุดในช่วง “London Fashion Week” ถึง 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 76 ล้านบาทเลยทีเดียว
เปิดตัวบริษัท Cloud9 Entertainment อย่างเป็นทางการแล้ว ?
“จริงๆ เราทำงานกันมาพักนึงแล้ว แต่วันนี้ก็เป็นการแนะนำตัวกับสื่อมวลชนและลูกค้าต่างๆ สำหรับค่ายนี้จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 พาร์ต คือพาร์ตของ Artist Management ซึ่งเราไม่ได้ทำค่ายนี้เพื่อจะมาดูแลผมคนเดียว แต่ตั้งใจที่จะมีศิลปินที่เราดูแลในสังกัดด้วย ส่วนอีกพาร์ตหนึ่งก็เป็นการทำงานในส่วนของเอเจนซี่ด้วย เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า”

พอขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารแล้วต้องปรับเปลี่ยนตัวเองยังไงบ้าง ?
“จริงๆ ผมไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเยอะครับ ส่วนตัวผมทำธุรกิจอยู่แล้ว ผมมีอีกแบรนด์หนึ่งที่ทำเกี่ยวกับแฟชั่น เพียงแต่ว่าไม่ได้มีโอกาสมาออกสื่ออะไรแบบนี้”
ควบทั้งตำแหน่งผู้บริหารและเป็นศิลปินเองด้วย ?
“ใช่ครับ อย่าลืม ไบร์ท วชิรวิชญ์ ไม่ใช่ว่าเปิดค่ายแล้วจะเลิกทำงาน ยังเป็นศิลปินอยู่ ยังติดต่องานได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เรายังเป็นศิลปินคนเดียวในค่ายอยู่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมทีมจัดการระบบต่างๆ ให้มันเป็นได้อย่างที่เราตั้งเป้าไว้ ณ วันนี้ก็อยากให้ตัวเองเป็นเหมือนหนูทดลอง ถ้าระบบที่เราทำมันเวิร์กกับผมแล้ว ผมก็พร้อมที่จะเซ็นสัญญากับศิลปินคนอื่นๆ”
การทำเพลงของเราจะเป็นไปในทิศทางไหน ?
“ส่วนตัวผมฟังเพลงค่อนข้างหลากหลาย มีคุยกับทีมเหมือนกันว่าสรุปแนวเพลงของผมคืออะไรกันแน่ ทุกอย่างมันก็คือตัวตนที่เป็นเราแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้สรุปว่าคือแนวไหน แต่บอกได้เลยว่ามันจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นแน่นอน ถามว่าจะได้เห็นผลงานในฐานะศิลปินไทยปีนี้เลยไหม ถ้าเป็นในแง่ของเพลงใหม่ ถ้าไม่ผิดพลาดเราตั้งเป้าว่าจะปล่อยกันในเดือนมีนาคมปีหน้าไง ทุกคนจะได้ฟังเพลงใหม่จากผมที่เป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรก”
การแข่งขันในธุรกิจนี้สูงเหมือนกัน คิดว่า Cloud9 มีกลยุทธ์อะไรที่จะแทรกตัวเข้ามาอยู่ในตลาดตรงนี้ได้ ?
“จริงๆ ผมไม่ได้แข่งขันกับใครเลยครับ ผมมองว่าเราแข่งขันกับตัวเอง ทำผลงานให้ดีขึ้น พร้อมที่จะร่วมงานกับทุกคน เพื่อให้ตลาดไทยมันโตขึ้น เพื่อให้เราได้มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้น อันนี้คือเป้าหมายของเรามากกว่า เป้าหมายของเราไม่ใช่เรื่องเงิน แต่อยากผลักดันศิลปินไทยให้ทำงานในระดับอินเตอร์เนชั่นแนลได้มากขึ้น แล้วก็ทำผลงานที่มีคุณภาพในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เพราะผมเชื่อว่าผลงานที่ดีจะนำมาซึ่งผลกำไรที่ดีครับ”
มองในอนาคตไว้ไหมว่าศิลปินเบอร์แรกที่เราจะเซ็นสัญญาด้วยจะเป็นแบบไหน ?
“ผมว่าศิลปินเบอร์แรกของผมต้องเป็นคนที่พร้อมจะทำงานในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ด้วยความที่งานที่ผมทำมันมีโอกาสได้ทำงานกับต่างประเทศเยอะมากๆ เรารู้สึกว่าเห็นช่องทางที่อยากจะพัฒนาศิลปินในแบบที่อินเตอร์เนชั่นแนลเขาทำ เพราะฉะนั้นคนแรกที่เราจะเซ็นจะเป็นคนที่พร้อมทำงานในอินเตอร์เนชั่นแนล (มีมองใครไว้บ้างหรือยัง?) บอกไม่ได้(ยิ้ม) จริงๆ ก็มีแหละครับ”
ถามแทนแฟนคลับหน่อยว่าจะมีโอกาสได้เห็น “ไบร์ท-วิน” ทำงานคู่กันอีกไหม ?
“แน่นอนครับ วันนี้วินก็มาด้วยอยู่ข้างในอยากเดินเข้าไปทักมากเลย ยังไม่ได้เข้าไปเจอน้องเลย จริงๆ ติดต่อได้เสมอครับ ผมสามารถร่วมงานได้กับทุกคน ไม่ว่าจะวินหรือใครก็ตาม หรือแม้แต่จีเอ็มเอ็มทีวี เราก็ยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน แล้วเราก็มองว่าในอนาคตเราก็อาจจะมีโปรเจกต์ร่วมกันได้อีกหลายๆ โปรเจกต์”

หลายคนกังวลว่าจะห่างหายกันไป ?
“ผมกับวินเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับ วินคือ Freinds for life ของผม เราเคยคุยกันว่าอนาคตต่อให้วันหนึ่งเราจะแต่งงานมีลูก เราอาจจะมีทริปแบบไปเที่ยวทะเลกัน พาลูกไปกัน ทุกคนไม่ต้องห่วงคุณจะได้เห็นผมกับวินอยู่ในทุกๆ พาร์ตในชีวิตตลอดไปแน่นอน”
อยากชวนวินมาแจมในงานเพลงของเราด้วยไหม ?
“แน่นอนครับ แต่อันนี้ก็ต้องถามน้องด้วย ส่วนตัวผมพร้อมจะร่วมงานกับน้องอยู่แล้ว วินอาจจะมาในพาร์ตของนักร้อง หรือมาในพาร์ตของเล่นเอ็มวีร่วมกัน เดี๋ยวเรามาติดตามกัน (ทาบทามบ้างแล้ว?) ยังครับ”
ล่าสุดกำลังจะได้ไปร่วมงาน MTV JAPAN ด้วย?
“ใช่ครับ เดือนพฤศจิกายนนี้ เพิ่งประกาศออกมาแล้วเดี๋ยวจะมีเพื่อนรักของผมไปด้วยก็คือกลัฟ (คณาวุฒิ) ตื่นเต้นมาก ผมก็ได้มีคุยกับทาง MTV ว่าอยากจะทำโชว์แบบไหน ตอนนี้ก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์ประมาณหนึ่งแล้ว อันนี้เป็นโชว์เดี่ยวของผมครับ น่าจะเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยเล่นมา คือจะมีผู้ชมประมาณ 20,000 คน”
ล่าสุดไปร่วมงาน London Fashion Week Spring/Summer 2024 อีกครั้ง ?
“จริงๆ ผมไป London Fashion Week ครั้งนี้เป็นครั้งที่3 แล้ว รู้สึกว่าเราสบายตัวขึ้น รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วครั้งนี้เราก็เตรียมตัวไปดีมากๆ ในแง่ของภาษาหรือสิ่งที่ต้องสัมภาษณ์ต่างๆ เลยรู้สึกว่าเป็นครั้งล่าสุดที่เราทำได้ดีที่สุดแต่ไปมา”
มีรายงานด้วยว่าเราสร้างมูลค่าทางสื่อได้มากที่สุดในช่วง London Fashion Week Spring/Summer 2024 ถึง 76 ล้านบาท จากการบินไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ที่ลอนดอน ซึ่งมาจาก 3 โพสต์ทางไอจีที่มีคนกดไลก์รวมกันมากกว่า 2 ล้านครั้ง?
“จริงเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นเขาต้องเพิ่มค่าตัวให้ผมแล้วแหละ(หัวเราะ) ผมดีใจนะครับ เหมือนพอเขาทำงานกับเราแล้วเราก็อยากที่จะทำให้เขาได้ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ ในเวย์ของเรารู้สึกว่า Burberry เป็นแบรนด์ที่รับฟังมากๆ เราไม่ได้เป็นเหมือนแค่นายแบบหรือว่าอินฟลูเอ็นเซอร์คนนึง แต่เราเป็นคนที่พรีเซนต์ Burberry ในแบบของเรา”