เป็นศิลปินที่มีความสามารถรอบด้านจริงๆ สำหรับ “ทอม แฮงก์” ที่นอกจากจะเป็นนักแสดง และผู้กำกับแถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ดแล้ว ล่าสุดเขากำลังจะเขียนนิยายเล่มแรกออกมาให้อ่านกันในเดือนพฤษภาคมปีหน้าอีกด้วย
นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า “The Making of Another Major Motion Picture Masterpiece” มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำหนังซูเปอร์ฮีโรฟอร์มยักษ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือการ์ตูน มีดาราดังๆ มาร่วมเล่นมากมาย และใช้งบประมาณในการสร้างหลายล้านดอลลาร์
โดยไทม์ไลน์ในนิยายกินเวลายาวนานถึง 80 ปี เริ่มตั้งแต่ยุค 1940 มาจนถึงยุคปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นภาพของวัฒนธรรมอเมริกันที่เปลี่ยนแปลงไปมากนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
สำนักพิมพ์เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ ผู้จัดพิมพ์นิยายเล่มนี้เปิดเผยรายละเอียดเป็นน้ำจิ้มเอาไว้ว่า พาร์ทแรกของนิยายเกิดขึ้นในปี 1947 เป็นเรื่องของทหารนายหนึ่งที่กลับมาจากสงครามแล้วมาสร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับหลานชายวัย 5 ขวบของเขาที่มีพรสวรรค์ทางศิลปะ
เรื่องตัดมาในยุค 1970 เด็กชายคนนั้นโตขึ้นแล้วเขียนหนังสือการ์ตูนออกมา โดยให้ลุงที่สร้างความตราตรึงไว้ในจิตใจของเขาไว้ กลายเป็นซูเปอร์ฮีโรตัวหนึ่งของเรื่อง จากนั้นเวลาก็ตัดมาในยุคปัจจุบัน ผู้กำกับคนหนึ่งตัดสินใจนำหนังสือการ์ตูนเรื่องนั้นมาดัดแปลงเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรฟอร์มยักษ์ ซึ่งมีตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ทั้งดาราชายเรื่องเยอะ นักแสดงนำหญิงที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงโปรดิวเซอร์ และผู้ช่วยฝ่ายผลิตอีกมากมายหลายตำแหน่ง

นอกจากนี้ ทอม แฮงก์ ยังเขียนการ์ตูนออกมาอีก 3 เล่ม ซึ่งมีความโยงใยกับนิยายเรื่องนี้ โดยได้โรเบิร์ต ซิคอร์ยัก (Robert Sikoryak) เป็นคนวาดภาพประกอบ
“The Making of Another Major Motion Picture Masterpiece” เป็นนิยายเรื่องแรกของทอม แฮงก์ แต่เป็นหนังสือเล่มที่สองของเขา โดยเมื่อปี 2017 ทอมเคยเขียนรวมเรื่องสั้นชื่อ “Uncommon Type” ออกมา ซึ่งปัจจุบันนี้ขายไปได้กว่า 2 แสนเล่มแล้ว
ทอม แฮงก์ เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Philadelphia และ Forrest Gump กล่าวว่า การทำหนังเป็นงานที่หนักหนาสาหัสและกินเวลายาวนานมาก มันประกอบด้วยช่วงเวลาที่สนุกสนานมากมาย พอๆ กับการเกิดความรู้สึกเกลียดชังตัวเอง ซึ่งเขาหวังว่านิยายเรื่องนี้จะทำให้คนเข้าใจโลกภาพยนตร์กันมากขึ้น
นักแสดงเจ้าบทบาทยังบอกด้วยว่านิยายเล่มนี้ได้แรงบันดาลใจมากจาก “บทเรียนสำคัญ” ที่เขาได้มาจากฮอลลีวู้ดนั่นเอง
“ทุกตัวละครในหนังสือเล่มนี้ทำสิ่งที่ผมประสบมาด้วยตัวเองขณะทำหนัง รวมถึงการค้นพบปรัชญาหรือการเรียนรู้บทเรียนที่สำคัญๆ แม้แต่ช่วงเวลาที่งี่เง่าๆ ในนิยาย ก็เป็นความผิดพลาดที่ผมเอาตัวรอดมาได้” นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 66 ปี ให้สัมภาษณ์นิตยสารพีเพิลเอาไว้