กลายเป็นประเด็นกับการถูกรางวัลที่ 1 ของ “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม” จากล็อตเตอรี่ออนไลน์หงษ์ทอง ที่ถูกตั้งคำถามว่า จัดฉาก หรือ ถูกจริง ล่าสุดเจ้าตัวออกมาไลฟ์พร้อมกับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศรี” ผู้ที่ออกมาแฉหงษ์ทอง
ณวัฒน์ : “วันนี้ที่เราตั้งไลฟ์เพราะเราอยากจะคุยกับบิ๊กเอ็ม ถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเพื่อให้มันชัดเจน ผมว่าจริงๆ แล้วบิ๊กเอ็มก็อยากพูดความจริงทั้งหมดมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสไม่ได้ และอาจจะถูกกดดันจากทุกๆ ด้าน ก็ไม่อยากให้เรื่องมันลามระบาดต่อไปไกลสำหรับตัวน้องนะครับ ส่วนคนอื่นก็ให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนที่เราจะคุยกัน เราอยู่บนพื้นฐานของสังคมปกตินะครับ เป็นคนที่มีความผิดพลาดได้ คนที่มีความถูกต้องได้ บางทีความบีบคั้นต่างๆ นานามันทำให้เราอิรุงตุงนังไปหมด เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาเปิดใจคนที่อยากจะเล่าในรายละเอียดทั้งหมดจริงๆ ให้มันชัดเจน”
บิ๊กเอ็ม : “ก็เครียดมากๆ เลยครับ เอาเป็นว่าผมขออธิบายสั้นๆ นะครับ คือทางพี่โอ๊ตที่อยู่ทาง PWJames เขารู้จักกันกับพี่ริน และวันนั้นรู้สึกพี่โอ๊ตเขาจะสั่งสบู่มาทางผม เพราะตอนนี้ผมทำสบู่อยู่ และน่าจะมีการตกลงอะไรกัน ว่าถ้าวันที่เอาสบู่มาส่งให้พาผมไปด้วย และวันที่ผมไปก็คือเอาสบู่ไปส่ง ก็เลยได้รู้จักกันวันนั้นครับ คือเขาบอกว่าเขาถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 24 ล้าน และอย่างที่ทุกคนเห็นก็คือเขาส่งล็อตเตอรี่มาให้ผมใบนึง ก็คือ 6 ล้าน ก็คือเขาจะแบ่งให้ 6 ล้านครับ”
ณวัฒน์ : “แต่ตอนแรกสุดเลยบิ๊กเอ็มโพสต์ 24 ล้าน เพราะอะไรครับ”
บิ๊กเอ็ม : “เขาส่งมาให้ผมโพสต์ครับ”
ณวัฒน์ : “อันนี้เอาตามความจริงนะครับ อาจารย์รินลดา ชัยหมื่น เป็นคนเอาเงิน 6 ล้านมาให้คุณแม่ถ่ายรูป ซึ่งตอนแรกคุณแม่คิดว่าเขาให้เลย หรือแค่ให้ถ่ายรูปครับ”
คุณแม่บิ๊กเอ็ม : “คิดว่าให้ถ่ายรูปนั่นแหละ แต่มีรูปอยู่กับแม่ 2 ล้าน แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือไปฝากไว้”


ณวัฒน์ : “ก็พอเวลาถ่ายรูปเสร็จแล้ว เงินเขาทิ้งไว้ให้กับคุณแม่เลยมั้ย หรือเขาเอากลับไป”
บิ๊กเอ็ม : “เอากลับครับ”
ณวัฒน์ : “เอากลับนะครับ เพราะฉะนั้นมันเป็นคอนเทนต์แค่ขอถ่ายรูป เพราะตอนนั้นเริ่มมีกระแสแล้ว ในการว่าจริงหรือเท็จ ก็เลยมีการจัดการที่พยายามเอาเงิน 6 ล้านวางให้กับบิ๊กเอ็มให้ได้ แต่เผอิญว่าเจอคุณแม่ ก็เหมือนคุณแม่เป็นคนรับไป แต่เงินทั้งหมดยืนยันจากบิ๊กเอ็มว่าเอากลับไป ไม่ได้รับเงินนะครับ เพราะเงินได้แค่ก้อนเดียวคือสปอนเซอร์คอนเสิร์ต ตรงนั้นเราน่าจะรู้แล้วใช่มั้ยครับ มันน่าจะชัดมากว่าทางนั้นไม่น่าจะถูก”
บิ๊กเอ็ม : “ชัดเจนแล้วครับ”
ณวัฒน์ : “ชัดเจนนะครับ และเหตุการณ์มันเกิดขึ้นมาจนถึงวันนี้ มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่”
บิ๊กเอ็ม : “มันเกิดจากการที่ผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของการทำธุรกิจ และผมก็เชื่อใจคนมากเกินไป จนมันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา และมันก็ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ เลย ในส่วนของธุรกิจเดี๋ยวก็ต้องไปคุยกันอีกทีนะครับ แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือขอโทษ (ยกมือไหว้) กราบขอโทษทุกคน ประชาชนทุกคน แฟนๆ รวมถึงคนทุกคนที่ผมรู้จักที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่ผมโง่เอง ผมไม่รู้ ผมไม่มีประสบการณ์ ผมเชื่อใจคนง่าย และผมก็คิดว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง ทั้งๆ ที่ท้ายที่สุดแล้วผมก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่ถูกหลอกใช้” (สีหน้าเคร่งเครียด)


ถามว่าผมจะดำเนินคดีเพื่อปกป้องตัวเองมั้ย ยังไงดีล่ะ ก็เดี๋ยวผมขอปรึกษาทางผู้ใหญ่ก่อนครับว่ามันจะไปในทิศทางไหน แต่โดยส่วนตัว 4-5 วันที่ผ่านมาที่เกิดเรื่อง ผมได้รับผลกระทบหนักมากๆ ซึ่งผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่วันนี้ผมกลายเป็นแพะรับบาปแทนทุกคน ผมถูกสังคมต่อว่า ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง
ถามว่าทำไมผมลบโพสต์ล่าสุดในไอจี ต้องชี้แจงว่าผมไม่ได้ลบนะครับ ผมแค่เก็บซ่อนโพสต์ไว้ คือในไอจีสามารถซ่อนโพสต์ได้ ที่ผมกดซ่อนโพสต์เพราะผมไม่เคยเจอดราม่าแบบนี้ ไม่เคยเจอกระแสสังคมที่มันรุนแรงขนาดนี้ และผมต้องรักษาสภาพจิตใจของตัวเอง ทุกครั้งที่อ่านคอมเมนต์มันรู้สึกแย่ มันเจ็บใจ เหมือนเอามีดทิ่มไปตามตัวผม มันทรมานมากครับ ก็เลือกที่จะขอไม่อ่านดีกว่า จนมันเยอะๆ เข้าก็เลยต้องกดซ่อนโพสต์ไว้ให้หมดเลย
ขอบคุณพี่ณวัฒน์มากๆ (ยกมือไหว้) ที่ให้โอกาสผมได้มาชี้แจงให้กับทุกคนได้รับทราบ และกราบขอโทษ ขออภัย (ยกมือไหว้) อีกครั้งนึงจริงๆ ขออภัยชาวไทยทั้งประเทศเลยที่ทำให้เข้าใจผิด ทุกอย่างมันเกิดจากความที่ผมไม่มีสติ ความที่ผมโง่ ไม่ทันได้คิด ไม่ทันได้สังเกตุอะไรมากมาย จนมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็อยากให้ทุกคนให้อภัยนะครับ เพราะตอนนี้คือทุกคนก็ได้รับบาดแผลหมด ผมยิ่งได้รับบาดแผลทางจิตใจเยอะ”