. เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากกับคู่รัก “เจษ เจษฎ์พิพัฒ” กับ “วิว วรรณรท” ที่ปิดฉากเส้นทางรัก 4 ปี ซึ่ง “เจษ” ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกถึงสาเหตุเลิกรา เจ้าตัวยอมรับว่า พยายามพูดคุย และปรับตัวกันอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ตกลงจบความสัมพันธ์ด้วยดีถามถึงความสัมพันธ์กับ “วิว”?
“ก็ตามที่ข่าวออกไป เราคุยกันแล้วว่าเลิกกัน ก็สักพักนึงแล้ว (ใช่คำว่าเลิก?) ครับ จากการที่คุยกันล่าสุด”
สาเหตุเกิดจากอะไร?
“ผมว่าก็เหมือนความสัมพันธ์ทุกๆ คู่ ที่จะมีความสุขและมีเรื่องไม่เข้าใจกัน เรื่องที่มันต่างกัน เราพยายามจะปรับเข้าหากันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่รู้ว่ามีจุดที่ต่างกันอยู่ ทั้งสองคนก็พยายามอย่างเต็มที่มากๆ ที่จะอยู่ด้วยกันให้ได้ ก็เต็มที่แล้วทั้งสองคน (ใครตัดสินใจคุยกัน?) เป็นการคุยกันครับ มันเริ่มจากการคุยปัญหานี้ขึ้นมา เถียงกันนี่แหละครับ แล้วก็มันถึงจุดที่ต่างคนต่างรู้สึกว่าถ้าปรับเกินกว่านี้ไปจะเป็นการเอาเปรียบอีกฝ่ายนึงครับ”

ปัญหายาวนานแล้วกับเรื่องที่ต้องปรับ?
“ใช่ครับ เพราะไม่ใช่ว่าเกิดปัญหาขึ้นแล้วปล่อยมือ มันเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใช้เวลาอยู่กับมันนานมาก สุดท้ายแล้วเป็นการตกลงกันมากกว่า ไมได้ทะเลาะกัน”
ขอถามเรื่อง “ปราง กัญญ์ณรัณ” ด้วยความที่เราโปรโมตละคร เลยโดนโยงมาเกี่ยว?
“อันนี้ก็ตอบได้ชัดเจนเลยครับ ไม่มีใครมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ‘ปราง’ หรือเป็นใครก็ตาม เพราะว่าส่วนนั้นก็คือละครออนแอร์พอดี แล้วด้วยแนวของละครเป็นรักโรแมนติก ภาพที่เราลงทั้งหมดภาพที่มาจากงาน ละครก็มาจากการโปรโมต ไม่ใช่ภาพที่เราไปเที่ยวกัน ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเข้าใจได้ แล้วที่ผมลงปกติเพราะว่าผมก็เห็นใจเพื่อนร่วมงานทุกๆ คน ไม่อยากให้มาเดือดร้อนกับเรื่องส่วนตัวของผม”
หลังจากเกิดกระแสได้ติดต่อเขาไปไหม?
“ผมมีไปขอโทษเพราะว่าเราก็ได้เห็นว่าเขาก็โดนหนักอยู่เหมือนกันบางทีก็ว่าเสียๆหายๆ แล้วเราก็รู้สึกว่ามันมาจากเราแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่จริง”
กับ “ปราง” ก็คือไม่มีสิทธิ์พัฒนาความสัมพันธ์?
“ไม่มีครับ ตอนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วก็เป็นเพื่อนกันเพราะอยู่กองก็สนิทแต่ว่าก็ไม่ได้มีอะไรเกินไปกว่านั้น”
สภาพจิตใจเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ตอนแรกคิดว่าดีครับ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
มีคนบางกลุ่มมาคอมเมนต์ว่าจะไม่ดูละครของเรา?
“ส่วนนั้นผมเคารพการตัดสินใจของแต่ละคนครับ เพราพว่าสำหรับแฟนคลับคู่หรือคนที่ซัพพอร์ตเรามาตั้งแต่แรกผมก็ขอโทษแหละที่ทำให้ผิดหวัง”
เราเสียดายไหมเพราะคนก็เชียร์คู่ของเรา?
“เสียดายครับ จริงๆแล้วปัญหามันเป็นสิ่งที่ทำให้ไปต่อกันไม่ได้จริงๆแต่ว่าสิ่งดีๆระหว่างทางมันก็เยอะมากๆ”
วันนี้ตัดสินใจออกมาพูดต้องตั้งหลักยังไง?
“คิดว่าควรออกมาทำอะไรให้ชัดเจนดีกว่าครับ เพราะมันก็มีหลายคนที่เดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นคนรอบตัวผมที่โดนคนมาถามไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่พี่น้องผม หรือเพื่อนๆผม ผมไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะผมต้องมาลำบากใจจะมาถามผม แล้วก็เป็นงานที่เรารับไว้ตั้งนานอยู่แล้วด้วยเลยคิดว่าโอเคได้เจอพี่นักข่าวก็ตอบวันนี้เลยดีกว่า”



ตอนนี้เริ่มโอเคหรือยัง?
“ยังรู้สึกอยู่ครับ เพราะจริงๆ ก็สักพักใหญ่ๆ ”
แต่เราก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่?
“ใช่ครับ ตอนนี้ผมก็ยังหวังดีกับเขามากๆแล้วก็ยังรักเขาอยู่ครับ มันแค่เป็นเรื่องที่ถ้าไปต่อในสถานะของแฟนกันหรือคนรักกันมันอาจจะเหนื่อยเกินไปสำหรับเราทั้งสองคนแต่สุดท้ายแล้วเขาเป็นคนดีมากๆคนนึงและหวังดีกับผมมากๆคนนึง”
ถ้าทั้งสองโตขึ้นอีกจะมีโอกาสกลัวมาคุยกันได้อีกไหม?
“อันนี้ตอบไม่ได้เลยครับ แล้วแต่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
กับความสัมพันธ์ครั้งนี้เราเสียใจอะไรบ้าง?
“เสียใจที่มันไม่ได้มีใครทำอะไรผิด มันแค่ว่าเราต่างกันแล้วก็เราหาตรงกลางตรงนั้นไม่ได้”
มาสัมภาษณ์วันนี้วิวเขาว่ายังไงบ้าง?
“ไม่ได้คุยเลยครับ หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้คุยเลยครับ เราก็ไม่ได้รู้ว่า คือผมไม่กล้าคิดแทนอะไรเลย ไม่รู้ว่าถ้าเราทักไปมันจะเป็นยังไง แต่ก็กะจะมาพูดความจริงเท่าที่พูดได้ครับ”
อนาคตข้างหน้าโอกาสในการร่วมงานกัน เป็นไปได้มั้ย?
“อันนี้แล้วแต่เขาดีกว่า ให้ความสบายใจของเขาเป็นหลัก ก็ต้องใช้เวลาแหละครับ ผมว่าเอาความสบายใจของเขาเป็นหลักไม่ว่าจะอะไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชาย”
อยากบอกอะไรกับแฟนคลับ เจษ-วิว ที่เขาเป็นห่วงคู่เรา? “ผมว่ามันเป็นทางที่จะทำให้ในตอนนี้เราจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันในเรื่องที่มันไม่ได้จำเป็นต้องทะเลาะ เราจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าความสัมพันธ์มันเหนื่อยในตอนนี้นะครับ เพราะว่าปัญหาที่เจอกันมันทำให้เราต้องมานั่งทะเลาะกัน เราต่างคนก็ต่างไม่มีเวลา ต่างทำงานแล้วมันก็เหนื่อยกันทั้งคู่ มันจะกลายเป็นมีผลต่องานต่อสุขภาพและอะไรหลายๆ อย่าง ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงครับ และขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ผิดหวัง”
ละครกำลังออนเรายังต้องลงรูปกับปราง เราจะยังไงต่อ?
“ถ้าเรื่องลงรูปโปรโมทผมขออนุญาตลงเป็นปกตินะครับ เพราะว่าส่วนตัวความคิดของผม อันนี้ไม่ใช่งานของผมคนเดียว และเราก็เหนื่อยกันมากกับละครเรื่องนี้ ใช้เวลาหลายเดือนในการถ่ายทำแล้วไม่ใช่แค่ผม นักแสดงคนอื่นรวมถึงทีมงานด้วย ไม่อยากให้การโปรโมทต้องมาหยุดชะงักเพราะเรื่องส่วนตัว”
มีหลายคนมองว่าเป็นการเซอร์วิสเกินไปหรือเปล่า?
“ไม่นะครับ สำหรับผมรู้สึกว่าถ้าทั้งสองฝ่ายหมายถึงทั้งผมและปรางบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเราก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เราบริสุทธิ์ใจ เราก็เลยลง ผมมองว่าการที่เราเลี่ยงที่จะไม่ลงมันแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์ใจมากกว่าครับ”
โล่งขึ้นมั้ยที่วันนี้ได้ออกมาพูดแล้ว?
“ก็โล่งขึ้นครับ อย่างน้อยคนก็รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นไม่ต้องเดาว่ามันมีอะไร ยืนยันว่าไม่มีมือที่สามแน่นอนครับ”