“เก่าไปใหม่มา”…”คลื่นลูกใหม่มาแรงกว่าคลื่นลูกเก่า” วลีเหล่านี้ยังใช้ได้อยู่เสมอในวงการบันเทิงที่มีนักร้องนักแสดงหน้าใหม่ตบเท้าเข้ามาไม่ขาดสาย ทำให้เหล่าผู้สร้างมีตัวเลือกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้แม้แต่นักแสดงที่เคยยิ่งใหญ่ในวงการยังถูกหลงลืมไปได้โดยง่าย
กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้วกับ ‘ชารอน สโตน’ ที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกจากภาพยนตร์อีโรติกระดับตำนานเรื่อง Basic Instinct (เจ็บธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา) ที่ออกฉายเมื่อ 31 ปีก่อน จนได้ชื่อว่าเป็น ‘เซ็กส์ ซิมโบล แห่งยุค 90’

ชารอน วัย 65 ปี เปิดเผยเรื่องนี้เอาไว้ในงาน Raising Our Voices ที่เดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์ตเตอร์ สื่อบันเทิงชื่อดังจัดขึ้นเมื่อวันก่อนว่าหลังจากที่เธอเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อปี 2001 ต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการอยู่เป็นเวลา 9 วัน แต่ฮอลลีวู้ดกลับหลงลืม เมินหน้าหนีเธอเป็นเวลานานถึง 20 ปี
นักแสดงหญิงระดับตำนานกล่าวว่าหมอแนะนำให้เธอพักจากการแสดงภาพยนตร์เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 ปีเท่านั้น แต่การพักคราวนั้นกลับยาวนานกว่าที่คิด
“ฉันฟื้นตัวมา 7 ปีแล้ว แต่ก็ไม่มีงานเลยนับจากนั้น ตอนที่มันเกิดขึ้นครั้งแรก ฉันไม่อยากบอกใครเพราะถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นละก็ ฉันจะต้องออกไปเลย แล้วก็มีบางอย่างที่ผิดพลาดเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ ฉันเลยหายไป 20 ปี”
“ฉันไม่มีงานเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันเคยเป็นดาราหนังชื่อดังมากในช่วงหนึ่งของชีวิต” ชารอน สโตน กล่าว พร้อมเสริมว่างานที่เธอได้รับหลังจากที่หายจากอาการเส้นเลือดในสมองแตกแล้วเป็นงานที่ไม่ใกล้เคียงกับที่เธอได้รับก่อนหน้านี้เลย

ทั้งนี้ ชารอน สโตน เป็นนักแสดงหญิงชาวอเมริกันที่เข้าวงการในยุค 80 แต่มาเริ่มเป็นที่รู้จักในยุค 90 จากหนังแนวไซไฟเรื่อง Total Recall (1990) ก่อนจะดังจนฉุดไม่อยู่จากการเล่นหนังอีโรติกทริลเลอร์เรื่อง Basic Instinct (1992) คู่กับ ไมเคิล ดักลาส ซึ่งทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์แนวดรามา
หลังจากนั้น ชารอนได้เล่นหนังของผู้กำกับชั้นครูอย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี เรื่อง Casino (1995) ที่ทำให้เธอได้รับคำชมเป็นอย่างมากในเรื่องฝีมือการแสดง ทั้งยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย
แต่หลังจากที่พักงานยาวแล้วกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง ชารอน สโตนกลับได้เล่นแต่หนังฟอร์มเล็กที่แทบจะไม่มีคนรู้จักจนทำให้เมื่อปี 2019 เธอถึงกับออกมาพูดว่า “ฉันสูญเสียทุกอย่างที่มีหลังประสบปัญหาสุขภาพครั้งนั้น”