เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากว่าดีเจ.คนดัง “มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ใช้ชีวิตสุดอู้ฟู่ ช้อปปิ้งวันละ 3 ล้าน มีเงินเก็บกว่า 500 ล้าน
“มะตูมไม่ได้มีเงินเก็บ 500 ล้าน เหมือนที่ข่าวออกมานะครับ อันนี้ไม่เป็นความจริงครับ ไม่ได้ใช้เงินวันละล้าน เคยใช้เงินถึงวันละล้าน โดยการซื้อนาฬิกาอะไรแบบนี้ แต่ใครจะใช้เงินวันละล้าน เดือนหนึ่งมี 30 วัน โห 30 ล้าน ปีหนึ่งเท่าไหร่อะ เป็นไปไม่ได้ ตูมไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น”

แล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เราใช้เงินมากที่สุดวันละเท่าไหร่?
“ก็เป็นล้านครับ ต้องยอมรับ แต่เป็นการช้อปปิ้ง ไม่ใช่ทุกวันนะครับ ตอนนั้นถ้านับเป็นวันไม่ค่อยได้นับ แต่นับเป็นเดือนก็หลายแสน หลักแสนถึงหลักล้าน แต่ไม่เคยเกิน 3 ล้าน”
หลายคนก็ไม่เชื่อชีวิตนี้มะตูมจะไม่มีเงินถึง 500 ล้าน?
“ไม่ถึงแน่นอนครับคือ มันมาจากรายการมีเงิน 500 ล้านจริงมั้ย บอกก่อนว่าตูมเคยเห็นยอดนี้ แต่มันเป็นเงินบริษัท เป็นเงินลงทุน เมื่อก่อนตูมทำธุรกิจประมาณ 8 ตัวนะ แล้วไม่ใช่ทุกตัวที่ประสบความสำเร็จ มันก็มีบางตัวที่ขาดทุน บางตัวขาดทุนเยอะพอสมควร เพราะฉะนั้นเงินเก็บของตูมจริงๆ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น เงินหมุนเวียนในบริษัท หมุนวน เป็นหนี้ที่ก่อเกิดรายได้ไปเรื่อยๆ มากกว่า มันไม่ใช่เงินส่วนตัว แต่หัวข้อข่าวออกไป ขอแก้ตรงนี้นะครับ ว่ามะตูมเคยมี 500 ล้านแล้วหมด บอกเลยว่าไม่ใช่นะครับ ถ้ามีคงไม่ต้องมาทำงานแล้ว (หัวเราะ)”
แล้วโดนเข้าใจผิดเยอะขนาดไหน?
“เยอะครับ แต่ตูมอยากให้ทุกคนที่ดู ไม่ต้องไปโฟกัสว่าตูมใช้เงินมาเท่าไหร่ หรือว่ามะตูมเสียอะไรไปบ้าง แต่อยากให้เอาทัศนคติของตูม ณ วันนี้ไปปรับใช้กับตัวเอง ว่าคุณต้องวางแผนชีวิตทางการเงินดี ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบตูม ใช้ชีวิตแบบสามล้อถูกหวยอะ มีเงินแล้วไม่เคยเก็บอะ มันหมดได้จริงๆ นะ ต่อให้วันนี้ถูกหวย 30 ล้าน ปีหน้าก็หมดได้นะ ถ้าคุณไม่ตั้งใจเก็บเงิน ตูมแค่อยากจะออกมาแชร์ เอาประสบการณ์ของตัวเองมาแชร์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนดูต่อไป”
วันที่ไม่มีเงินเท่าเดิม เราให้กำลังใจตัวเองยังไง?
“ตูมเริ่มจากลบเลยนะ อยู่เยอรมันบินกลับมาไทย มีเงินในแบงก์ บอกเลยไม่ถึงแสนอะ จนวันหนึ่งทำธุรกิจ แล้วก็หลงระเริงกับมัน พอมาอยู่จุดที่กลางๆ มันไม่ได้ขึ้นสุดลงสุด ตูมเชื่อว่าเวลาที่คนบอกว่า ตอนนี้ตูมไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้วอะ ตกต่ำหรือเปล่า
คำว่าตกต่ำใช้กับตูมไม่ได้ ตูมยังออกมาทำงานหาเงิน ตูมยังรับผิดชอบชีวิตลูกน้องอีกเยอะมาก ยังมีหลายคนในประเทศนี้ลำบากกว่าตูมอีก ยังไม่เคยได้จับเงินล้านด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นตูมจะไม่เอาชีวิตตัวเองมารัดทนและดราม่า ตูมไม่ได้ถึงจุดที่ตกต่ำ เพียงแค่เอาพฤติกรรมและนิสัยการใช้เงินของตูม ในสมัยก่อนที่มันไม่ดี มาแชร์เป็นประสบการณ์ให้คนระมัดระวังการใช้เงินของตัวเองเท่านั้นเลยครับ”

เมื่อก่อนเราใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเลย?
“ไม่คิดเลยครับ ก็มันมี มันหลง จัดงานวันเกิดเอย เลี้ยงเพื่อน ตูมเป็นคนที่เวลาเพื่อนไปกินข้าวกับตูม เพื่อนไม่เคยต้องจ่าย”
มีคนเตือนไหมตอนนั้น?
“ต้นหอม ศกุนตลา, มดคำ คชาภา, ดาด้า ครับ เยอะครับ จริงๆ ผู้ใหญ่และพี่ๆ เขา จะบอกว่าตูม มีเงินอะอย่าเพิ่งเหลิง อย่าเพิ่งซื้อแบรนด์เนม อย่าเพิ่งบินไปเที่ยวโน่นนี่ เก็บก่อน แต่ว่า ณ ตอนนั้น คนไม่เคยมี มันเป็นเรื่องปกติที่อยากจะใช้ชีวิตที่ตัวเองไม่เคยได้ใช้ แต่พอวันนี้ได้ใช้แล้ว ก็คงไม่กลับไปใช้แบบวันนั้นแล้ว”
ทุกวันนี้ยังซื้อแบรนด์เนมไหม?
“ไม่ซื้อเลยครับ ตูมไม่ได้ช้อปปิ้งแบรนด์เนมมา 3 ปีแล้วครับ แบรนด์เนมล่าสุดคือซื้อของขวัญให้ดีเจมดดำเลยครับ”
แล้วชีวิตสมถะของเราคืออะไร?
“ชีวิตสมถะของตูมคือชีวิตที่ไม่ต้องเบียดเบียนใครครับ คือถ้าเกิดคุณมีเงินแล้วคุณใช้ของคุณเองโดยที่ไม่ต้องไปหยิบยืมใครไม่ต้องเป็นภาระใคร คุณจะใช้เงินวันละล้านสิบล้านแต่มันเป็นเงินคุณ สะดวกเลยครับ อันนี้คือสมถะในรูปแบบของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่สำหรับตูม ณ ปัจจุบันนี้แค่ตูมปลดหนี้ให้พ่อให้แม่ตูมได้อยู่กินสบาย ให้ลูกน้องตูมได้มีเงินเดือนได้มีงาน ตูมโอเคครับ”