มีการเผยแพร่ข่าวอักษรย่อที่ว่า “อดีตดาราอักษรย่อต. คบซ้อนและหลอกเงินผู้หญิง” จนถูกโยงไปหา “ตั้ม วิชญะ” งานนี้ผู้สื่อข่าวไม่เจอตัวตั้ม แต่เจอ “เติ้ล ตะวัน” น้องชายเลยถามถึงเรื่องนี้
“จริงๆ แล้วก็เห็นข่าวนี้ครับ แล้วก็เป็นที่พูดถึงในครอบครัวเลยดีกว่า แต่เราก็คุยกันว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหญ่เพราะว่าเราเติบโตมาบนเส้นทางนี้ ผ่านมาแล้วร่วม 20 ปี เจอมาหมดแล้วทุกแบบทุกอย่าง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าพี่ชายผมเพิ่งแต่งงาน แล้วเขาก็มีสมาชิกใหม่มาในครอบครัว บางทีเขาอาจจะเซ้นซิทีฟเรื่องนี้ รวมถึงพี่ตั้มเองก็ซีเรียสเรื่องคอมเมนต์ที่มาว่าถึงครอบครัว แต่ว่าจริงๆ แล้วเราอยู่ในจุดที่เราเป็นคนของประชาชน ซึ่งคนของประชาชนก็เหมือนงานศิลปะ บางทีก็มีคนวิจารณ์ได้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ว่าก็อยากให้อยู่ในขอบและเขต อีกอย่างจริงๆ แล้วผมว่ามันเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งที่พอมันมีจุดประเด็นขึ้นมาแล้วก็เอามาเม้าธ์กัน อันนี้ก็พอเข้าใจได้”


แจงแทนพี่ชายเลยได้ไหมว่าไม่ใช่คนในข่าวแน่นอน?
“ถ้าบอกว่าเป็นอักษรย่อต. แล้วไปเล่นแอพฯ อะไรเนี่ย แล้วแอบไปฟาดเนี่ย มันมีความเป็นไปได้ แต่พอบอกว่าไปยืมเงินด้วยนี่มันไม่น่าใช่แล้ว เพราะว่าผมกับพี่เนี่ย…พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้(ร้องเพลง) ปกติพี่เขาเป็นสายเปย์ผมด้วยซ้ำ แล้วแอพฯ เนี่ยก็ยังไม่รู้เลยว่าแอพฯ อะไร ซึ่งตัวเราเองมั่นใจเลยว่าไม่ใช่พี่ชายเราแน่นอน พอบอกว่าแอบไปยืมเงินเนี่ยก็คิดว่าไม่น่าใช่แล้ว”
ทางครอบครัวจะมีการฟ้องร้องอะไรไหม เพราะเห็นทางภรรยาของตั้มขู่จะฟ้อง?
“อันนี้ผมไม่ทราบเลย อาจจะต้องถามเขาเพราะเราก็ไม่ได้รู้ว่ามันเป็นคอมเมนต์แรงขนาดไหน แล้วทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงขนาดไหนเพราะว่าตัวเขาเองก็ทำธุรกิจคนละแบบ เขาทำธุรกิจขายของ แล้วก็บางทีถ้าเกิดมีเรื่องที่พูดแล้วมันพาดพิงและทำให้เสื่อมเสียความเชื่อถือตรงนี้ก็ถือเป็นความเสียหายครับ แต่ส่วนตัวผมทำงานในอาชีพของสายบันเทิง เราอยู่กับการที่ถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์หรือเอาเราไปพูดได้เพราะเราถือว่าเป็นคนสาธารณะ ก็ด่าได้แต่อย่าแรงมาก(หัวเราะ)”
พี่ตั้มเครียดไหม?
“ผมว่าเขาเครียดนะแต่ว่าเขาเป็นคนปล่อยวางได้เร็วครับ แล้วก็เห็นที่เขาออกมาโพสต์แว้บๆ ว่าเขาไม่อยากจะมีเรื่องอะไรอย่างนี้ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมั้ง”
ปีนี้พี่ตั้มโดนมรสุมข่าวเยอะเลย ก่อนหน้านั้นมีอดีตดาราคนหนึ่งออกมาโพสต์แฉ คนก็โยงมาถึงพี่ตั้มเช่นกัน?
“เอ่อ…สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจพี่ชายผมนะครับว่า…มันมีเรื่องลึกกว่านี้แหละ แต่เขาไม่พูดเพราะเขาไม่อยากให้ใครเสียหายเลย แล้วเขาก็มักจะเออ…ไม่เป็นไร ด่ากูได้แต่อย่าด่ากูแรงอะไรประมาณนี้ ทีนี้อะไรก็ได้ด่าเราได้ แต่พอมันพาดพิงมาถึงครอบครัวหรือคนที่เรารัก อย่างผมเองถ้าเกิดผมโดนด่าแล้วมาด่าลูกสาวผมด้วย อันนี้ผมก็ไม่ยอม อะไรก็ได้อย่าแตะครอบครัว”

เรื่องนี้มีผลกระทบอะไรกับครอบครัวเราเยอะไหม?
“เอาจริงๆ นะครับคือครอบครัวไม่เชื่ออยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ว่าคนที่ทำขึ้นมาหรือคนที่พยายามจะให้เป็น ผมก็ไม่แน่ใจนะเพราะว่าผมก็ไม่ได้อ่านละเอียด ไม่ได้สนใจเอาจริงๆ อ่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพจเองก็ดี หรือว่าคนที่คอมเมนต์ที่พยายามจะโยงมาเข้าเรื่องก็ไม่รู้ว่าเจตนายังไง แต่ว่าถ้าเกิดมีเจตนาไม่ดีผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาควรจะได้รับบทเรียนหรือเปล่า พี่ชายผมจะทำอะไรหรือเปล่า เราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย”
ตัวเราเป็นห่วงความรู้สึกคุณแม่ดาว(ดวงดาว จารุจินดา)ด้วยไหม?
“โอ๋ย! แม่แข็งแกร่งครับ แม่เขาไม่เชื่ออยู่แล้วอ่ะครับ แล้วก็เรารู้ดีว่าคนในครอบครัวเราเป็นยังไง เราถูกสอนมาแบบไหน เพราะว่าแม้กระทั่งเราทำธุรกิจหลายอย่างแล้วมันล้มไปโดยที่ความจริงเราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำก็ได้ เรายังรับผิดชอบเลย เป็นหนี้หลายล้าน เรายังชดใช้โดยที่เราก็ก้มหน้าก้มตาทำไปทั้งๆ ที่บางทีมันไม่ใช่ความรับผิดชอบเราเลย”