ด้วยความที่มีหนังใหม่ ๆ ให้เราได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนังโรง และหนังที่ฉายทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่าง ๆ เลยทำให้เราไม่รู้สึกตัวกันเลยว่านักแสดงเบอร์ต้น ๆ ของวงการอย่าง ‘เอ็มมา วัตสัน’ นั้นห่างหายไปจากหน้าจอภาพยนตร์เป็นเวลานานเกือบ 5 ปีแล้ว
โดยผลงานชิ้นสุดท้ายที่เอ็มมาทิ้งเอาไว้ให้แฟน ๆ ได้ดูกันต่างหน้าก่อนจะหายหน้าหายตาไปเลยก็คือ Little Women ผลงานของผู้กำกับ เกรตา เกอร์วิก ที่ออกฉายเมื่อปี 2018

ล่าสุด เอ็มมาเพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทม์ส ถึงสาเหตุที่เธอร้างลาจากวงการไปนานถึงครึ่งทศวรรษว่ามันเป็นเพราะเธอไม่มีความสุขกับการทำอาชีพนักแสดง
“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในกรงขัง สิ่งที่ฉันพบว่ามันยากมาก ๆ ก็คือการที่ฉันต้องออกไปข้างนอกแล้วขายบางอย่างที่ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้มากนัก การที่ต้องไปยืนเป็นตัวแทนของหนังเรื่องหนึ่งโดยนักข่าวทุกคนสามารถที่จะถามฉันว่า…หนังเรื่องนี้สอดคล้องกับทัศนคติของคุณยังไงบ้าง…มันยากมากที่จะต้องเป็นตัวแทน และเป็นกระบอกเสียงของสิ่งที่ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนั้น”
เอ็มมาเล่าว่าหลังจากนั้นเธอก็เลยเกิดความสิ้นหวังที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์มีเสียง และได้พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดจริง ๆ
“แล้วฉันก็เริ่มคิดได้ว่าฉันต้องการเป็นตัวแทนของสิ่งที่ถ้าเกิดมีใครมาขอให้ฉันพูดถึงมันแล้ว ฉันสามารถพูดได้ในแบบที่ไม่ทำให้ฉันต้องเกลียดตัวเอง ใช่ ต่อให้ฉันทำมันพัง มันก็เป็นการตัดสินใจของฉันเอง ฉันควรจะทำมันให้ดีกว่านั้นเอง”

ทั้งนี้ ผลงานที่ผ่านมาของเอ็มมา วัตสันนั้น นอกเหนือจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Harry Potter แล้วก็ยังมีหนังเรื่อง Noah, The Perks of Being a Wallflower, The Bling ring, Beauty and the Beast และอีกหลายเรื่อง ก่อนจะมาปิดท้ายที่ Little Women ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่สุดของงานอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หรือ Best Picture
อย่างไรก็ตาม แฟน ๆ ไม่ต้องตกใจกัน เพราะนักแสดงที่เราเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กน้อยจนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัวในภาพยนตร์ชุด แฮร์รี พอตเตอร์ทั้ง 7 ภาคนั้น บอกว่าเธอจะกลับมารับงานแสดงอีกแน่นอน เพียงแค่ขอเลือกผลงานที่ถูกใจเท่านั้
“แน่นอนที่สุดค่ะ” เอ็มมาตอบ เมื่อถูกถามว่าจะกลับมารับงานแสดงอีกไหม พร้อมเสริมว่า “แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขที่ได้นั่งรอสิ่งที่ใช่ ฉันรักสิ่งที่ทำ แล้วมันจะหาทางทำออกมาในแบบที่ฉันไม่ต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ ต่อหน้าคนอื่น ฉันไม่อยากเปลี่ยนโหมดเป็นหุ่นยนต์อีกต่อไปแล้ว”