เป็นพระเอกหนุ่มที่มีความตั้งใจเหลือล้น หลังว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อหารายได้ช่ยสัตว์ทะเล แต่ภาพรกิจครั้งนั้นไม่สำเร็จ เนื่องจากเจอพิษโควิด -19 แคต่ล่าสุดเขากลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้พระเอกหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ตั้งใจเต็มร้อยเพื่อทำภารกิจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ระยะทางไปกลับ 15 กิโล เชื่อพ่อปู่พญานาคราชคงปกป้องคุ้มครอง เพราะต้องการหาเงินมาช่วยเหลือพี่น้องทั้งฝั่งไทย-ลาวจริงๆ
“จริงๆ ตอนนี้ขาแข็งแรงแล้ว น่าจะพร้อมแล้ว แต่ในเรื่องของส่วนบนน่าจะยังต้องฝึกอีกเยอะครับ เพราะที่ผ่านมาเราก็ใช้ฟุตบอลช่วยด้วยในเรื่องของหัวใจ แต่วิธีการหายใจมันก็คนละแบบกับการว่ายน้ำระยะไกลครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าละครที่ผมถ่ายอยู่ วิวาห์ฟ้าแล่บ จะปิดกล้องแล้ว ถ้าละครปิดกล้องเมื่อไหร่ผมก็จะลงน้ำ ซ้อมได้จริงๆ จังๆ เพราะตอนนี้ยังลงน้ำกลางแจ้งไม่ได้ เดี๋ยวจะดำมาก มันจะไม่ต่อเนื่องกับละครครับ ก็ต้องซ้อมในสระปกติไปก่อน เฉลี่ยซ้อมวันละ 2 กิโลเมตร เราต้องซ้อมให้หนัก เพราะเวลาว่ายจริงมันมีในเรื่องของกระแสน้ำด้วยครับ แต่เดี๋ยวเราค่อยขยับจากสระว่ายน้ำไปเป็นบึงครับ


ที่หลายคนเป็นห่วง ก็ขอบคุณมากครับทุกคน ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญกว่าครับ เรื่องที่ทำไมเราถึงมาว่ายสำคัญกว่า แม่น้ำโขงอยู่กับเรามานาน ให้ทั้งอาชีพ อาหาร มีประวัติความเป็นมาที่เรารัก เราศรัทธา และผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยและฝั่งลาว ถ้าการว่ายครั้งนี้ทำให้คนหันมาช่วยกันดูแล ใส่ใจดูแลแม่น้ำลำคลองกันมากขึ้น ประเทศของเราเป็นประเทศที่มีแม่น้ำหลายสายเลยนะครับ สำคัญมากๆ แล้วลองคิดดูถ้าเราทำให้แม่น้ำทุกสายของบ้านเรามันสวยงาม มันสะอาด เราจะได้ประโยชน์จากตรงนี้อีกมากมายขนาดไหน
แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าแม่น้ำลำคลองที่เรามีอยู่มันเน่าเสีย มันพังไปหมด เราจะทิ้งโลกใบนี้ให้กับลูกหลานเราแบบไหน นั่นเป็นคำถามที่การว่ายน้ำครั้งนี้อยากจะให้ทุกคนหันมาสนใจครับ รวมถึงโรงพยาบาลที่เราจะช่วย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งนครพนม หรือท่าแขกของฝั่งลาว โควิดที่ผ่านมา คุณหมอ คุณพยาบาลทำงานอย่างหนักมาก อุปกรณ์การแพทย์ขาดอีกหลายอย่าง
ดังนั้นถ้าการว่ายครั้งนี้แล้วทุกคนพอที่จะเมตตาผม หรือช่วยผม ถือว่ามาดูกีฬาก็ได้ครับกับการว่ายข้ามแม่น้ำโขงครั้งนี้ ระยะทางไป-กลับประมาณ 15 กิโลเมตร และผมก็ไม่เคยว่ายไกลขนาดนี้มาก่อนครับ คงจะเป็นวันที่หนักและเหนื่อยมาก แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ทุกคนจะได้ทราบ ได้รู้ ว่าแม่น้ำโขงสำคัญกับเรายังไง แม่น้ำลำคลองในบ้านเราสำคัญกับเรายังไง รวมถึงถ้าทุกๆ คนช่วยกันคนละ 1 บาท คนละ 5 บาท คนละ 10 บาท ในการช่วยโรงพยาบาลทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวครั้งนี้ ผมคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยครับ”


เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว กลัวตายไหม
“คงจะซ้อมไปให้ดีที่สุดครับ ในน้ำบางอย่างมันก็คาดเดาไม่ได้ แต่ผมเชื่อมั่นใจทีมของผม เราไม่ได้คิดจะทำก็ทำเลย ไม่ได้เป็นการว่าเราเก่งหรืออะไรนะครับ ไม่ใช่เลย แต่ผมคิดว่าการให้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ในรูปแบบไหน มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากกับโลกใบนี้ ก็ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ จะเริ่มซ้อมแล้ว วันที่ 22 ต.ค. จะเป็นวันว่ายจริง เริ่มที่ลานพญานาคของฝั่งนครพนม ไปขึ้นที่พระธาตุศรีโคดตะบองของฝั่งลาว และก็ว่ายกลับมาจบที่ลานพญานาคครับ ว่ายจบในวันเดียวครับ ขาไปไม่เกิน 10 กิโลเมตร ส่วนขากลับประมาณ 5 กิโลเมตร จะพยายามซ้อมให้มันดีที่สุดครับ ถ้ามันจะเป็นการทำให้คนได้รู้จักกับ จ.นครพนมมากขึ้น มาเที่ยวมากขึ้น รวมถึงพ่อแม่พี่น้องฝั่งลาวด้วย ผมคิดว่ามันคงจะดีครับ แม่น้ำมันจะดีขึ้นได้ มันจะสวยงามขึ้นได้ มันไม่ได้จากใครคนใดคนหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มันคือการร่วมมือกัน ดังนั้นผมอยากฝากทุกคนด้วยครับ ให้ช่วยกันเชียร์ และรักสิ่งแวดล้อม ดูแลแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ภูเขา เมืองของเรา เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และลูกหลานของเราครับ”
กลัวอุปสรรคอะไรเป็นพิเศษไหมเหรอ
“ไม่ครับ ตั้งแต่คิดที่จะทำ ผมไม่กลัวเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับผม แต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันถึงหูคนไทย คนลาว ชาวโลกทุกคนให้ได้มากที่สุดครับ ว่าสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่สำคัญนะ ใช่ครับ สงครามตอนนี้ก็ยังมีอยู่ใช่ไหมครับ สภาพเศรษฐกิจต่างๆ แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ เลยเป็นอันดับ 1 คือเรื่องของโลกร้อน คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ตอนนี้มันแย่ลงไปนะครับ เราต้องช่วยกันครับ”

เชื่อเรื่องตำนานต่างๆ ของแม่น้ำโขงไหม
“ผมเชื่อนะครับว่าองค์พ่อพญานาคจะคุ้มครองผม ผมเชื่อว่าสิ่งที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ พ่อแม่เราไหว้และศรัทธา ผมเชื่อว่าถ้าท่านรับรู้ ท่านคงจะอยากให้แม่น้ำลำคลองสมบูรณ์ครับ นั่นคงเป็นสิ่งที่ท่านอยากจะให้มันเกิด ในความคิดของผมนะครับ แต่ผมเตรียมใจไว้แล้วครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยินดีครับ”
ฝากถึงประชานชนหน่อย
“ฝากถึงทุกๆ คนด้วยนะ ตอนนี้เรายังไม่ได้เปิดรับบริจาคครับ เราจะเปิดรับบริจาคในวันที่ 1 ต.ค. นะครับ จนไปถึงวันว่ายจริง วันที่ 22 ต.ค. ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปก็ขอฝากพ่อแม่พี่น้องทุกๆ คนนะครับ คนละ 1 บาท 5 บาท 10 บาท สามารถติดตามที่อินสตาแกรมของผมไปก่อนได้ครับ จะอัปเดตให้ฟังเรื่อยๆ ว่าซ้อมไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวต้นเดือน ก.ย. ต้องไปลงพื้นที่จริงเผื่อไปดูโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลท่าแขกของฝั่งลาวด้วย รวมถึงติดต่อประสานงานว่าจุดไหนที่มันอันตราย ตรงไหนที่เป็นน้ำเชี่ยว น้ำดูด น้ำวน ก็จะพยายามทำการบ้านให้ได้มากที่สุดในตรงนั้น และจะคอยอัปเดตอีกทีครับ
พ่อแม่พี่น้องชาวลาว ก็สามารถมาช่วยกันได้ครับ จริงๆ แล้วเราต้องรักกันครับ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน พวกเรามาแบ่งกันเอง ว่านี่เรียกว่าลาว เรียกว่าไทย เรียกว่าอเมริกา แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน อยู่ในโลกใบนี้ เป็นไปไม่ได้เลย ถ้าโลกมันแย่แล้วฝั่งใดฝั่งหนึ่งมันจะอยู่ดี เราใช้ทรัพยากรร่วมกันหมด ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ดังนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะครับ สำคัญมากว่าเรื่องอื่นๆ”