ถือเป็นความขัดแย้งที่ค่อนข้างจะลักลั่นทีเดียว สำหรับซีรีส์เรื่อง Monster: The Jeffrey Dahmer Story หรือ “เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรรมอำมหิต ปีศาจ” ทาง Netflix ที่เจอกระแสดรามาหนักหน่วงจากหลายด้าน แต่กลับกลายเป็นว่าซีรีส์แนว true crime เรื่องนี้มียอดเข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแพลตฟอร์มในสัปดาห์แรกที่ออกฉายกันเลยทีเดียว
ข้อมูลจากอินดี้ไวร์ระบุว่า Dahmer มีการรับชมถึง 196.2 ล้านชั่วโมง ในช่วงสัปดาห์แรกที่ออกฉาย แถมปัจจุบันนี้ยังครองอันดับ 1 รายการทีวีที่มีผู้ชมมากที่สุดในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย
Dahmer สร้างจากเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่องชื่อ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ที่สังหารเหยื่อไปมากถึง 17 ศพ ในช่วงระหว่างปี 1978-1991 โดยเจฟฟรีย์ ซึ่งเป็นชายผิวขาวผมทอง จะเลือกเฉพาะเหยื่อที่เป็นเกย์ผิวสี ขณะที่การเหยียดผิวและรังเกียจพวกรักร่วมเพศในสังคมยุคนั้นก็เป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เขาลงมือฆ่าคนอย่างอำมหิตมาได้เป็นเวลานานถึง 13 ปี

การนำเรื่องราวของเขามาสร้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า (ซีรีส์ของ Netflix เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับ Dahmer ชิ้นที่ 3 ในระยะเวลาเพียง 5 ปี) ได้ส่งผลให้ครอบครัวเหยื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงออกมา
หนึ่งในนั้นคือ ริตา อิสเบลล์ พี่สาวของเออร์โรล ลินด์เซย์ เหยื่อที่ถูกสังหารในวัยเพียง 19 ปี โดยอิสเบลล์เป็นผู้กล่าวถ้อยคำอันน่าสะเทือนใจในศาลตอนที่มีการตัดสินคดีของดาห์เมอร์เมื่อปี 1992 ดังนั้น ซีรีส์เรื่องนี้จึงมีเรื่องของเธอไปปรากฎอยู่ด้วย แต่อิสเบลล์บอกว่าเธอไม่เคยได้รับการติดต่อจาก Netflix เลย
อิสเบลล์บอกด้วยว่า Netflix ควรมอบเงินบางส่วนให้กับลูกหรือหลานของเหยื่อมันจะได้ไม่รู้สึกแย่มากนัก แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่พวกเขาแค่ต้องการหาเงินจากโศกนาฎกรรมนี้เท่านั้น”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ อีริค เพอร์รี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ เออร์โรล ลินด์เซย์ ก็ออกมาทวีตว่าทางครอบครัวของเขาไม่มีความสุขกับซีรีส์เรื่องนี้ เพราะมันทำให้พวกเขาต้องกลับมาเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมันทำไปเพื่ออะไรกัน
“เราต้องการหนัง ซีรีส์ หรือสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้กี่เรื่องกันเหรอ” ทางครอบครัวเหยื่อถาม
แม้แต่คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางครอบครัวอย่างแรปเปอร์ชื่อ Boosie BadAzz ก็ออกมาทวิตว่า “ในฐานะคนดำ พวกเราควรบอยคอตเรื่องนี้ สิ่งที่มันทำกับเด็กคนดำของเรามันเลวร้ายมาก”