หลังจากออกมาโพสต์ชี้แจงไปแล้ว หลังถูกวิจารณ์ในเรื่องของการจัดงานวิ่งและมีการเรียกเก็บค่าสมัคร โดยมีรายละเอียดระบุว่าจะนำเงินไปทำบุญ แต่ดันมีเพจหนึ่งออกมาบิดเบือนข้อมูลว่า เรียเก็บค่าสมัคร 3599 บาท แต่บริจาคแค่ 100 บาท จนทำให้ “ก้อย รัชวิน” ต้องออกมาบอกว่า ข้อมูลที่เพจดังกล่าวนำเสนอไม่เป็นความจริง และค่าสมัคร 3599 บาท รายได้ทั้งหมดถูกหักเข้าการกุศล
โดยล่าสุด “ก้อย” เจอกับผู้สื่อข่าวเลยได้อธิบายว่างานวิ่งดังกล่าวไม่ใช่การวิ่งการกุศล และราคาค่าสมัครเป็นราคาปกติ แต่ทางผู้จัดงานอยากที่จะนำเงินบางส่วนเพื่อมอบให้กับการกุศล ในส่วนของค่าสมัครราคา 3599 บาทนั้น เป็นแบบแชร์ริตี้ เพราะฉะนั้นค่าสมัครทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิรามาฯ ในโครงการ ‘ผู้ป่วยยากไร้มะเร็งเต้านม’ โดยที่ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
แต่เรื่องดังกล่าวที่ถูกบิดเบือนทำให้คนเข้ามาโจมตีคุณแม่ลูกหนึ่งอย่างมาก และมีการเลยเถิดไปวิจารณ์ยังลูกชายตัวรน้อยอย่าง “น้องทะเล” อีกด้วย

ได้เห็นข้อความที่โดนถล่มไหม ?
“เห็นค่ะ (คำไหนที่รู้สึกว่าแรงไหม?) เอาอย่างนี้แล้วกัน เราเห็นแล้วเรารู้สึกว่าเราก็ไม่สบายใจค่ะ ก็ทุกข์แหละ แต่ว่าการจะดับทุกข์ได้ดีที่สุดคือต้องดับที่ตัวเราเอง ถามว่าก้อยต้องจัดการยังไง รู้สึกว่าเราจัดการกับความรู้สึกตัวเองดีกว่า แล้วเราก็เอาเวลาไปโฟกัสการจัดงานให้ดีที่สุด ให้คนที่เขามาสมัครวิ่งกับเราได้ไปวิ่งในงานที่ดี ให้เขาวิ่งแล้วเขามีความสุข มีรอยยิ้มกลับบ้านไป อันนี้ก้อยว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานครั้งนี้”
ในความคิดของเรา เราคิดว่าเขาตั้งใจบิดเบือนหรือว่าเขาแค่เข้าใจผิด ?
“ก้อยไม่ทราบจริงๆ ค่ะ และก้อยก็คงจะไม่หาเหตุผลด้วย”
ไม่ได้คิดจะจัดการถึงขั้นฟ้องร้องเอาผิดใช่ไหม ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ก็กระทบชื่อเสียงเราพอสมควรเลย ?
“เอ่อ…สำหรับก้อยนะคะ การฟ้องร้องไม่ได้ทำให้ก้อยมีความสุขไปมากกว่านี้ คือตอนนี้เราเห็นข่าว เราก็รู้สึกไม่สบายใจ ถามว่าทุกข์ไหม ก็ทุกข์ แต่ว่าการฟ้องร้องไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นหรือสบายใจมากขึ้น ในทางกลับกันอาจจะรู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นเราก็ดับทุกข์ที่ตัวเองก่อน แล้วก็เอาเวลาไปโฟกัสกับการจัดงานให้ดีดีกว่า”
สามี “ตูน อาทิวราห์ (ตูน บอดี้สแลม)” มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ?
“พี่ตูนก็บอกว่าเราได้พูดความจริงออกไปแล้ว และก็อยากให้เราไปโฟกัสสิ่งที่อยู่ข้างหน้า คนที่เขารักเรา สนับสนุนเรา หรืออยากจะมาวิ่งในงานของเรา และเราก็ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด คือเราเองก็รู้ว่าการจัดงานวิ่งครั้งหนึ่งมันไม่ง่าย แต่เราก็อยากให้คนที่มาวิ่งเขามีความสุขที่สุด กลับไปอย่างมีพลังบวก ให้เขารู้สึกว่าเขาอยากกลับมาวิ่งกับเราอีก”


ส่วนตัวเราเองรู้สึกเสียกำลังใจไหม ?
“เอ่อ…เสียกำลังใจไหมเหรอ ก็…ตัวก้อย จริงๆ เราก็เจออะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ (หัวเราะ) เราก็ค่อนข้างมีภูมิต้านทานพอสมควรค่ะ แต่ว่าเราก็ไม่ค่อยสบายใจถ้าเกิดมันจะถูกพาดพิงไปในด้านอื่นๆ ที่มันไม่เกี่ยวกับงานวิ่งของเรา หรือพาดพิงไปถึงลูกหรืออะไรแบบนี้ ซึ่งก้อยรู้สึกว่าถ้ามองในความเป็นแม่ ณ ตอนนี้ เรารู้สึกว่า เราก็คงไม่อยากให้ลูกโตมาในสังคมที่มันมีไซเบอร์บูลลี่แบบนี้”
คำไหนที่เราเห็นแล้วเรารู้สึกว่ามันแรง ?
“ก้อยจำไม่ได้หรอกค่ะมันเยอะ คือเอาจริงๆ นะคะ ก้อยอยากจะข้ามไปเลยอ่ะ ก้อยไม่อยากจะโฟกัส และก็ไม่อยากจะเอาพลังลบตรงนั้นมาทำให้เราไม่มีแรงเดินหน้าต่อ เราอยากจะเดินหน้าต่ออย่างมีความสุข แต่ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นที่มันเกี่ยวข้องกับลูกเราในอนาคต บางทีในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่เราก็ต้องปกป้องลูกเราเหมือนกัน”
มีการพาดพิงไปถึงน้องเยอะไหม ?
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ก็เคยเห็นมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ”
เสียน้ำตากับเหตุการณ์ทำนองนี้บ่อยหรือเปล่า เวลาที่มีคนมาโจมตีลูก ?
“เป็นแม่ต้องเข้มแข็งค่ะ เราต้องปกป้องลูกเราค่ะ”
อยากจะบอกอะไรกับเขาไหม เพราะบางทีเขาอาจทำไปโดยลืมนึกถึง ?
“ไม่พูดดีกว่าค่ะ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง วันนี้ก้อยได้ชี้แจงในเรื่องข้อมูลของงานวิ่งแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งคัญที่สุดที่เพราะก้อยไม่อยากให้คนที่เขาไม่ได้ติดตาม และเปิดอินเตอร์เน็ตมาเจอข่าวต้องรู้สึกอุ๊ย! หรือต้องรู้สึกเข้าใจผิด เนื่องจากอ่านคอมเมนต์แบบไม่รู้ว่าที่มาที่ไปคืออะไร ดังนั้นก้อยก็ขอชี้แจงในส่วนที่เป็นประเด็นให้ตรงจุดแค่นั้นพอ ส่วนเรื่องอื่นก็ช่างมันค่ะ”

เรื่องนี้ไม่ได้กระทบกับความตั้งใจดีของเราที่จะทำกิจกรรมดีๆ ต่อไปใช่ไหม ?
“ไม่ค่ะ เหรียญมันมีสองด้านเนอะ เราตั้งใจทำความดี แต่ถ้าต่อไปในอนาคตคนก็มองได้สองด้านเสมออยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าเรารู้ตัวเองว่าเราทำอะไรอยู่และเรามีความตั้งใจที่ดี เราก็จงทำต่อไป และก้อยสนับสนุนให้คนที่คิดดี คนที่อยากจะทำอะไรดีๆ ให้สังคมทำต่อไป ก้อยไม่ได้บอกว่าก้อยเป็นคนดีนะคะ แต่ก้อยแค่จะบอกว่าก้อยมาอยู่ตรงนี้ในฐานะของคนของประชาชน และการที่เรามาอยู่ตรงนี้ได้ เราก็อยากที่จะทำอะไรคืนให้กับสังคมบ้าง ส่วนการจัดงานวิ่งมันก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่เราอยากจะชวนผู้หญิงมาวิ่ง เราอยากให้คนมีความสุขเท่านั้นเอง”