จากกรณีที่ “ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” แกล้ง “คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์” จนร้องไห้ขณะซ้อมละครเวที “ลิขิตรัก ชิงบัลลังก์ The Romantic Comedy Fantasy Musical” ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมีเพื่อนร่วมกระบวนการอย่าง “กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” ร่วมอยู่ด้วย ล่าสุดทั้ง 3 คนได้ออกมาเปิดใจพร้อมกัน
คริส : “สำหรับทุกคนที่ผ่านมาเข้ามาดูถือว่าจะเป็นบทเรียนของพวกเราทุกๆ คนในภายภาคหน้าต่อไปเลยครับ เราอาจจะเข้าใจว่าในสังคมยุคนี้ อะไรที่ได้อะไรที่ไม่ได้ พวกเราจะกลับไปคิดกันใหม่ เพราะสุดท้ายแล้วพวกเราแค่เล่นกันเฉยๆ แต่ว่าเข้าใจในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บางเรื่องมันอาจจะไม่ได้มากขึ้น พี่ๆ ทั้ง 2 เขาน่ารักกับผมมาก เขารักเลยแกล้งผม มันอาจจะเป็นที่วิธีการที่ทำให้หลายคนที่เข้ามาดูรู้สึกไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นก็เราขอโทษพร้อมๆ กันเลยแล้วกันเนอะ (ไหว้)
กับแฮชแท็ก #saveคริส คือผมรู้สึกไม่ค่อยดีหลังจากที่มันเริ่มออกมาในทิศทางลบ เพราะว่าในตอนที่เรารู้แล้วเรายังรู้สึกโอเคนะ เรามั่นใจมาก ถ้าไม่รักไม่แกล้ง ชัวร์ๆ แฟนๆ เดอะสตาร์หลายคนก็บอกว่าปกติเล่นกันแบบนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเองก็อยากจะเล่นแบบนี้ด้วยเหมือนกัน ผมขี้แงด้วยครับ”
กัน : “ไม่ๆ”
ตั้ม : “คือผมยอมรับเลยว่าขี้แกล้งตั้งแต่เด็กๆ เอาง่ายๆ โตมากับสังคมที่เป็นแบบนี้ ที่แคบพอสมควร เราก็จะอยู่กับเพื่อนเป็นแก๊งที่แกล้งกันหยอกกัน มันอาจจะไม่เคยมีเหตุการณ์หรือบทเรียนอะไรที่ทำให้เรามองอีกมุมหนึ่ง ซึ่งตอนที่ผมลงคลิปไป อ่านทุกคอมเมนต์ ขอบคุณและเข้าใจในอีกมุมที่เราไม่เคยสัมผัส เราอาจจะคิดว่าเรารักน้อง
ในการลงคลิปครั้งนั้นเราต่างคุยกันว่า ผมมองเห็นอีกมุมหนึ่งของน้องว่าน้องเป็นคนน่ารัก แคร์ ใส่ใจคุณครู เรามองความน่ารักตรงนี้แล้วก็เรื่องคิดว่าจะโดนด่า ก็มีนึกไว้ เต็มที่ก็เป็น อีตั้ม อีเลว อีชั่ว ตามเรื่องที่คิดไว้ประมานี้ อาจจะลืมคิดไปถึงว่าเด็กๆ เยาวชนมาดู หรือความรู้สึกจริงๆ ของน้องเป็นยังไง พอเกิดเรื่องผมก็โทร.พูดคุยกับน้อง ที่น่าตกใจคือน้องเป็นห่วงผมมากๆ นี่คือความน่ารักของเขา เขาบอกผมกลัวพี่จะรับไม่ไหวกับการโดนว่าอะไรหรือเปล่า น้องแสดงความเป็นห่วง
แล้วก็พูดว่าพี่ต้องเหมือนเดิมกับผมนะ ต้องแกล้งผมเหมือนเดิมนะ ผมโอเคพี่ ผมก็รู้สึกว่าในเรื่องร้ายมันมีเรื่องดี ได้เจอน้องชายที่จริงใจหนึ่งคน และบทเรียนในชีวิตที่โตมา 20 กว่าปี ไม่เคยสัมผัสมุมมองนี้ ไม่ได้คิดกว้างๆ บทเรียนนี้เป็นบทเรียนสำคัญมาก สัญญาว่าจะปรับปรุงตัว ให้ผมเปลี่ยนวันนี้ไม่พูดไม่ได้ว่า ตั้มจะเลิกแกล้งคนไปเลยหรือเปล่า มันอยู่กับผมมา 20 กว่าปี แต่ผมจะค่อยๆ ปรับให้มันดีขึ้นและคิดให้รอบคอบกว่านี้”



ซึ่งความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
กัน-คริส-ตั้ม : “ตอนนี้ทั้ง 3 คนก็รักกันมากสุดๆ ครับ”
กัน : “สำหรับตัวผม ผมกับคริสสนิทกันมาก่อนหน้าที่จะมาเจอคนอื่น ต้นเรื่องจริงๆ แล้วมาจากผม คือผมเป็นคนที่คริสส่งมาปรึกษา เครียดมากทำให้ครูแหม่มเป็นอย่างโน้นอย่างงี้ ผมก็เลยมีไอเดียอยากเอามุมนี้ส่งไปแกล้งน้องดีกว่า รับน้องใหม่ ครูเขาซีเรียสนะ ก็ส่งในไปกรุ๊ปของตั้มกับโดม ซึ่งจริงๆ ต้องขอโทษทุกๆ คน ขอโทษที่ทำให้มีส่วนเกี่ยวข้อง พี่นุ้ย สุจิรา, พี่หนึ่ง, แพรวา , ครูแหม่ม ซึ่งมันเป็นแค่สิ่งที่เราอยากให้เป็นเรื่องสนุกสนาน แต่ผมไม่ได้คิดว่าผลต่างๆ มันจะออกมาขนาดนี้ ถ้ารู้เป็นแบบนี้คงไม่แกล้งน้องตั้งแต่แรก อย่างที่ตั้มบอกก็เป็นบทเรียนที่ทำให้เรารู้ว่าเราผ่านมาแล้ว และจะไม่ทำอะไรแบบนี้แล้ว ขอโทษน้องชายด้วย”
คริส : “แต่อยากจะบอกทุกๆ คนว่าอีกอย่างหนึ่งที่ในเรื่องร้ายยังมีเรื่องดี ก็คือมันเป็นละครเรื่องแรกของคริสเลย แล้วการมาทำตรงนี้ต้องอาศัยความเชื่อใจกันในระดับ 100% เลย อย่างน้อยการเกิดเรื่องนี้ขึ้นมันทำให้พวกเราเชื่อใจกันมากๆ และเราก็ทำงานได้เต็มที่สุดๆ ผมยังบอกดีใจและมีความสุขมากที่ได้เจอกับพวกพี่เขาทุกคน แต่ถ้าผิดพลาดก็เป็นบทเรียนกับเราทุกคนเลยครับ (ไหว้) เปลี่ยนแฮชแท็กเป็น #เซฟกัน (ยิ้ม)”
มีคนคอมเมนต์ถึงเรื่องนี้เยอะมาก
ตั้ม : “ผมเลือก เรื่องนี้คือโชคดีโดยส่วนใหญ่คนที่เข้ามาคอมเมนต์เขาจะคอมเมนต์ว่ามันเหมาะสมแล้วเหรอ ไม่ค่อยมีหยาบคาย แล้วเอาไปปรับปรุงไม่ได้ ผมค่อนข้างที่จะเปิดรับคอมเมนต์ที่ผมสามารถนำไปบทเรียนได้ ไม่มีแบบมาด่าไอ้โน่นไอ้นี่ มันไม่มีเหตุผล ทุกคนล้วนมีเหตุผลให้ผม อันนี้ผมอ่านแล้วรับได้และก็ มีความเข้าใจทำไมเขาถึงคอมเมนต์แบบนี้ ขอบคุณที่ทำให้ผมโตขึ้นและเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เราไม่เคยไปยืน ณ จุดนั้น ถือเป็นบทเรียนที่คุ้มค่ามากๆ คุ้มที่เราจะได้คิดมากกว่านี้ และคุ้มที่ได้น้องชายคนนี้มา ทำให้เราได้พูดคุยกันเยอะขึ้น ทุกข์ด้วยกัน ผมเลยรู้สึกว่าในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี
คนบอกว่าจะเลิกเลยไหมนิสัยนี้ ถ้าบอกว่าเลิกเลยอาจจะโกหก เพราะผมอยู่กับแบบนี้มา 28 ปี ผมเพิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันพลิกเลยไม่ได้ แต่ผมสัญญาว่าจะค่อยปรับตัวและคิดให้มากขึ้น แต่ก็ทำให้เราคุยกันมากขึ้น เรื่องส่วนตัวก็คุยกันทุกวัน”
คริส : “ทุกวันครับ ก็ต้องขอบคุณทุกอย่าง จริงๆ ที่เกิดขึ้นทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ เลยครับ”