หลังจากที่เวลาผ่านมา 2 ปี จนความเสียใจเริ่มบรรเทาลง และภาพยนตร์แบล็คแพนเธอร์ ภาค 2 หรือ Black Panther: Wakanda Forever กำลังจะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว “ไรอัน คูเกลอร์” ผู้กำกับหนังซูเปอร์ฮีโรเรื่องนี้เลยสามารถออกมาพูดถึงช่วงเวลาสุดท้ายระหว่างเขากับ แชดวิก โบสแมน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเสียชีวิตลงได้โดยที่ไม่มีอาการฟูมฟายออกมา
คูเกลอร์ได้เล่าเอาไว้ในรายการพอดคาสต์ “Wakanda Forever: The Official Black Panther Podcast” ที่มีให้ฟังทางสปอติฟายว่า เขาได้พูดคุยกับโบสแมนก่อนที่นักแสดงเจ้าของบทบาท “คิงทีชัลลา” หรือ “แบล็คแพนเธอร์” จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2020 ได้ประมาณ 2 สัปดาห์

“การพูดคุยครั้งสุดท้ายของผมกับเขาเป็นการโทรไปถามว่าเขาอยากอ่านบทหนังก่อนที่ผมจะได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมจากทางค่ายไหม นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน แล้วเขาก็เสียไปน่าจะซัก 2 อาทิตย์หลังจากเราคุยกันเสร็จ” ผู้กำกับแบล็คแพนเธอร์กล่าว ก่อนจะหยุดไปชั่วครู่เพราะอารมณ์ตีตื้นขึ้นมา แล้วเสริมว่า เขามารู้ทีหลังว่าจริงๆ แล้วโบสแมนไม่ได้ไม่อยากอ่านบทหนังหรอก แต่มันเป็นเพราะเขาไม่มีแรงจะอ่านอะไรอีกแล้วต่างหาก
พอแชดวิก โบสแมนเสียชีวิตลง แล้วทางค่ายมาร์เวล สตูดิโอส์ ไม่ต้องการหานักแสดงคนอื่นมารับบทคิงทีชัลลาแทนเขา ผู้กำกับคูเกลอร์เลยต้องไปรื้อบทหนังมาเขียนใหม่ โดยปรับเนื้อหาให้เชิดชูตัวละคร คิงทีชัลลา รวมไปถึงนักแสดงที่รับบทนี้อย่างแชดวิก ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องรักษาสปิริตของนักแสดงคนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ ให้สามารถดำเนินเรื่องต่อไปตามจุดประสงค์ที่หนังตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรกได้

สำหรับแนวทางของภาพยนตร์ Wakanda Forever ที่เราคงได้เห็นกันไปแล้วจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมานั้น จะเป็นการติดตาม ซูริ น้องสาวของทีชัลลา, รามอนดา แม่ของเขาซึ่งเป็นราชินีแห่งวากานด้า และประชาชนชาววากานด้าในขณะที่พวกเขาพากันไว้อาลัยให้กับการจากไปคิงทีชัลลา ขณะเดียวกัน อาณาจักรแห่งนี้ก็ต้องเผชิญภัยคุกคามจากอาณาจักรใต้น้ำ พร้อมกับการปรากฏตัวของ แบล็คแพนเธอร์ คนใหม่ที่ดูจากลักษณะท่าทางแล้วน่าจะเป็นผู้หญิง
ผู้กำกับไรอัน คูเกลอร์ เปิดเผยกับ Yahoo Entertainment ถึงบทดั้งเดิมที่เขาเขียนไว้ให้ แชดวิก โบสแมน เล่นก่อนที่จะต้องมาปรับใหม่หลังเขาเสียชีวิตลงว่ามันแตกต่างออกไป โดยตัวเค้าโครงหลักหรือธีมของหนังยังคล้ายคลึงกัน แต่หนังจะดำเนินไปในมุมมองของคิงทีชัลลาค่อนข้างมาก นอกจากนี้ คิงทีชัลลายังต้องเผชิญเหตุการณ์ที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเขา ซึ่งมันต่างไปจากสิ่งที่ ซูริ และรามอนด้า ต้องเผชิญในบทที่ปรับใหม่แล้ว