ศึกที่ฉะกันสนั่น! ระหว่างคู่กรณีที่เคยสร้างตำนานรักต่างวัยถึง 31 ปี คือ “เอ้ ชุติมา” กับอดีตแฟนเด็ก “ฟร้อง ศุภกิจ” ที่ฟาดกันไม่ยั้ง หลังหนุ่ม “ฟร้อง” อ้างว่าถูก “กลั่นแกล้ง” หลังเลิกกันไป เพราะ “เอ้” ไม่ผ่อนบ้าน – ผ่อนรถให้ “ฟร้อง” ตามสัญญา โดยทั้งบ้าน – รถเป็นชื่อของฟร้อง ซึ่งตัวแปรสำคัญของศึกนี้มันอยู่ที่ “คุณแม่” ของหนุ่ม “ฟร้อง”
ทั้ง 3 คนมาเผชิญหน้ากันครั้งแรกหลังมีปัญหา แล้วมันมีประโยคเด็ดที่หลุดออกมาเยอะมาก หนึ่งในนั้นคือสาเหตุการเลิกกันของ “ฟร้อง” กับ “เอ้” ที่อยู่ดีๆ “คุณแม่” หนุ่ม “ฟร้อง” ก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา
แม่ฟร้อง : “เขาไม่มีตังค์ไง เขาหมดตัว มันไม่มีตังค์”
เอ้ : “เขามาว่าเรายักยอกทรัพย์”
แม่ฟร้อง : “คุณอย่าต..แ..ลมากสิ ทิ้งภาระหนี้สินให้ลูกเราเสียเครดิต เราไม่เคยมาขายลูกกิน”
เอ้ : “เขาบอกว่าให้ “เอ้” ย้ายออกจากบ้าน โดยห้ามขนอะไรออกไปเลย แม้แต่เสื้อผ้า”
ประโยคเด็ดจากส่วนหนึ่งของ “ปัญหา” ครั้งนี้ // ที่แน่ๆ มีเรื่องบ้าน / เรื่องให้ “เอ้” ย้ายออกจากบ้าน / เรื่องหมดตัวไม่มีตังค์ / ยักยอกทรัพย์ซึ่งก็คือรถ / เรื่องเสียเครดิต
ได้มาเจอน้องเขาอีกครั้ง ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?
เอ้ : “วันนี้ที่มาออกรายการก็อยากให้ทุกคนทราบถึงข้อเท็จจริงว่าการที่น้องเขามาฟ้องร้องเรา หรือขอความเป็นธรรม ใครดูโหนกระแสคนน่าขอความเป็นธรรมน่าจะเป็นเอ้มากกว่า ทั้งชีวิตทุ่มเทให้น้อง”
ตรงไหนที่ไม่ตรงตามที่ฝ่ายโน้นพูด?
เอ้ : “ให้รู้ว่าเราเป็นคนไม่คิดที่จะยักยอกทรัพย์ใคร เราไม่เคยคิดที่จะขโมยของใครเอามาจำนำ หรือดัดแปลงรถ เรามีที่มาที่ไป อย่างที่คุณทนายบอกว่าที่เอ้เอารถให้น้องเพราะอะไร”
ทนาย : “เพราะรถคันนี้เป็นการถือครองแทนกัน รถคันนี้คุณเอ้เป็นคนจ่าย ใช้ชื่อน้องถือกรรมสิทธิ์แทนเท่านั้นเองครับ กรรมสิทธิ์หนึ่งก็อยู่ที่คุณเอ้”


ทำไมเราส่งค่าบ้านและค่ารถ?
เอ้ : “เอาหลักความเป็นจริง เลิกกับแฟนแล้ว ทั้งดาวน์ ทั้งผ่อน เลิกกันแล้วจำเป็นต้องส่งต่อกันไหม ความเป็นจริงเอ้ดูแลมาทั้งชีวิตแล้ว วันนึงเราต้องออกจากบ้าน เราก็ออกใคร แต่คุณเขาให้เวลาเรา 30 วันในการย้าย การที่เราจะย้ายหาที่อยู่ใหม่สักที มันก็ต้องมีเวลาในการหาที่อยู่ใหม่ มันไม่ใช่ว่า 30 วันหาที่อยู่ใหม่ได้เลย มันต้องให้เวลากับเรา”
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าจบไม่ดี และพูดไม่ดีกับเราด้วยหรือเปล่า?
เอ้ : “ก็เลิกกันไปเลยทุกอย่างมีที่มาที่ไปการที่น้องไม่ได้มีเราคนเดียว น้องเที่ยวทุกอย่าง เราไม่ก้าวกายกันดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่าก็จบกัน เจอกันก็คุยกันธรรมดา ไม่ได้ให้ความรู้สึกดีๆ กันแล้ว”
มีหลักฐานชัดเจนใช่ไหมว่าเขามีคนอื่น?
ทนาย : “ผมว่าเรานี้อย่างเพิ่งพูดเลยดีกว่าครับ”
เขาไม่ค่อยชอบลูกสาวบุญธรรมของเรา?
เอ้ : “ลูกบุญธรรมของเราเขาคอยดูแลเราทุกอย่าง เราก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันว่าเขาคิดอะไรอยู่คนเราคบกันเป็นแฟนกัน ลูกบุญธรรมก็ส่วนลูกบุญธรรม แฟนก็ส่วนแฟน คนเราต้องแยกแยะ เราเองก็รักคนละแบบรักลูกบุญธรรมก็แบบหนึ่ง รักแฟนก็แบบหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบลูกบุญธรรมของเรา”
เขาเคยยื่นข้อเสนอให้เลือกระหว่างเขากับลูกบุญธรรม?
เอ้ : “มันเลือกไม่ได้เพราะลูกบุญธรรมเขาก็ดูแลเรายามที่เราเจ็บป่วย ตอนที่เราไม่มีใครเขาก็อยู่ข้างๆ เราตลอด กับเขาเราก็รักเขาในฐานะแฟน แต่เวลาเราเป็นอะไรเขาไม่ค่อยอยู่กับเรา เขาเที่ยวของเขา วัยรุ่นด้วย (นี่คือจุดแตกหัก?) จุดแตกหักเป็นเรืาองผู้หญิงด้วย เรื่องเที่ยวด้วย เคยจับได้ก็ไปปราบมาแล้ว ครั้งที่เคยเป็นข่าว ไปปราบมาแล้วที่ลานเบียร์ ที่กาญจนบุรี หลายๆ อย่าง”


เรื่องที่ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่น สารที่เรามาจะลูกบุญธรรมของเราหรือเปล่า?
เอ้ : “ไม่ค่ะ จากแฟนคลับด้วย เขาส่งมีให้เราดู เขาเห็นแค่สักหลังมือฟร้องเขาก็รู้กันหมดแล้วค่ะ”
ในวันที่เลิกกันเราคิดที่จะเอาบ้านและรถมาเป็นของเราหรือเปล่า เพราะเขาก็บอกว่าอยากให้พี่เอ้มีทั้งรถและบ้าน?
เอ้ : “เอาจริงๆ ให้บ้านและรถเป็นชื่อเขา เพราะเราอยากให้เขามีชีวิตที่ดี เราก็เลยดาวน์ให้ด้วยผ่อนให้ด้วย ส่งเรียนให้ด้วย น้องอยู่ในบ้านหลังนั้นเราดูแลน้องตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนลูกด้วย เหมือนแฟนด้วย เหมือนสามีด้วย เรียกว่าเป็นครอบครัว”
คิดไหมว่าสิ่งที่เราให้ไปจะกลายเป็นมีดที่กลับมาแทงเราในวันนี้?
เอ้ : “ไม่ได้คิดหรอกค่ะ เราไม่ได้ให้ด้วยความเสน่หา แต่เราให้ด้วยความรัก เอาเป็นว่าตอนนี้เอ้ไม่ได้เสียดายเงิน แต่เสียดายความรู้สึก 6 ปีที่เอ้ทุ่มเท เอ้แก่ลงทุกวันทุกวัน น้องเขายังเด็ก เขายังโตและสามารถไปที่อื่นได้ แต่เราพอแล้ว เราอายุมากขนาดนี้แล้ว เรา 55 ปี แล้ว มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราเจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย เสียเงิน เสียความรู้สึก เสียทุกอย่าง ถ้าใครเป็นอย่างเอ้จะเข้าใจ ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นเพราะเราอายุมากกว่าชอบเด็กก็จะมีปัญหาแบบนี้ ซึ่งเอ้บอกกับสื่อมวลชนทุกช่อง ทุกที่ว่า เอ้รู้อยู่แล้วว่าวันนึงเด็กต้องไป รู้อยู่แล้ว เราเพราะอายุมากกว่า แต่การไปไม่ใช่ลุกขึ้นมาฟ้องร้องความเป็นธรรมหรือว่าทำให้เอ้เป็นข่าวแบบนี้ เรามีชื่อเสียง การสร้างชื่อเสียงของคนเราไม่ได้สร้างแค่วันเดียว แล้วที่เขามาพูดว่าเราอยู่วงการมานาน สื่อมวลชนต้องเข้าข้างเรา เพราะเรามีอิทธิพล ซึ่งมันไม่ใช่ พูดเลยค่ะ สื่อมวลชนเขามีจรรยาบรรณ ถ้าถูกว่าตามถูก ถ้าผิดว่าตามผิด เขาไม่ได้เข้าข้างคนผิด
เขาไม่ได้มาเชียร์ว่าเป็นดารารู้จักมานาน คุณผิดต้องว่าไปตามผิด ดังนั้นที่ออกมาวันนี้เพื่อปกป้องตัวเอง เอ้เป็นคนตรงมาก อยู่วงการมาได้เกือบ 40 ปีไม่โกหกคน เรามีหลักฐานทุกอย่างที่เห็น เดี๋ยวจะไปออกอีก 3 รายการจะมีหลักฐานออกมาเรื่อยๆ”
ตอนนี้ประเด็นเปลี่ยนที่เลิกกันเพราะว่า “เอ้” หมดตัวจากการเล่นการพนัน?
เอ้ : “ใครๆก็เห็นว่าเอ้เป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าเยอะมาก ยังเล่นละครอยู่ตลอดเวลา ยังขึ้นคอนเสิร์ตอยู่เลยค่ะ ปีนี้ละคร 3 เรื่องนะคะคอนเสิร์ตก็เพิ่งเสร็จไป พรีเซ็นเตอร์ขึ้นบิลบอร์ดก็เต็มไปหมดนะคะ พี่เซ็นเตอร์ทั้งหมด 9 ตัวนะคะปีนี้ อันนี้ก็แล้วแต่น้องจะคิดนะคะ เวลาที่น้องพูดช่วยเอาคลิปคำพูดมาให้ด้วย เอ้เป็นคนที่ทำอะไรมีหลักฐานค่ะ มีคลิปมีแชตคำพูดของเขา ใครก็พูดได้ลอยๆ ไม่ต้องมีหลักฐาน”
แม่เขาบอกว่าเอ้หมดตัวจนต้องไปยืมเงินเขา 5 หมื่นจริงหรือเปล่า?
เอ้ : “เอาเป็นว่าเงินของเอ้อยู่ที่ลูกเขาดีกว่า ลูกเค้าจะให้เงินแม่เขาก็เรื่องของเขาแต่มันก็เป็นเงินของเอ้นั่นแหละ”
เลี้ยงลูกเขาแล้วยังต้องเลี้ยงครอบครัวเขาด้วย?
เอ้ : “ถูกต้องค่ะ เราส่งเขาเรียนด้วย เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เลิกกันแล้วก็แล้วแต่เขา ไม่คืนก็ไม่เป็นไร มันเป็นชื่อเขา มันเป็นสิทธิของเขา”
ที่ผ่านมาเขาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้าน?
เอ้ : “ที่ผ่านมาเงินเราอยู่ที่เขา เขาก็ต้องเอาเงินเราจ่ายไหม ซึ่งมันเป็นเงินเรา เราให้เขาเป็นคนเก็บเงิน หามาได้เท่าไหร่เราก็ให้เขาหมด บัญชีเขา (10 ล้าน?) ไม่รู้ค่ะ ไม่ได้นับ”
ทำไมไว้ใจให้เขาดูแลเงินเรา?
เอ้ : “เราอาจจะเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่มั้งคะ ก็เลยให้น้องคอยดูแลการเงินให้ (เคยนึกเสียดายไหม?) ไม่ได้เสียดายตังค์นะ เสียดายความรู้สึกมากกว่า มันเหมือนเราดูแลเขาด้วยหัวใจ ด้วยทุกอย่างในชีวิตแล้วมาเจอแบบนี้ เหมือนชาวนากับงูเห่า มันเหมือนเราโดนฉก มันเจ็บปวด ตอนนี้เลยนิ่งเลย ไม่กล้ามีแฟน”
เขาบอกว่าถ้าเราฟ้องเขาก็จะฟ้องกลับเหมือนกัน?
ทนาย : “เกี่ยวกับการฟ้องร้องคดี ก็ต้องไปดูหลักฐานกันก่อนว่ามีหลักฐานไปถึงแค่ไหน แต่ที่มองก็ยังไม่มี”
คิดว่าจะไกล่เกลี่ยกันก่อนในฐานะคนรักกัน?
เอ้ : “ไม่ค่ะ เอาให้สุดค่ะ ไม่เปลี่ยนใจ”
อยากเรียกร้อยสิ่งที่เราเคยให้ไป?
เอ้ : “ไม่ค่ะ แต่ชื่อเสียงคนเราไม่ได้สร้างกันในวันเดียว กว่าที่เอ้จะมีแฟนคลับทั่วประเทศไทยขนาดนี้ เอ้ไม่ได้เป็นแค่นางสาวไทย เอ้เป็นทั้งนางสาวไทย ทั้งดารา ทั้งนักร้องด้วย ฉะนั้นกว่าจะสร้างชื่อเสียงให้คนรักขนาดนี้ มีแฟนคลับได้ขนาดนี้ เอ้ไม่ได้สร้างเพียงแค่วันเดียว”
ในฐานะที่เราคบกันมา 6 ปี เรามองอนาคตของฟร้องยังไงบ้าง?
เอ้ : “ไม่ทราบค่ะ มันอยู่ที่น้อง เอาจริงๆ ฟร้องเป็นเด็กน่ารักนะ แต่ด้วยความที่เขาอ่อนหัด มันขึ้นอยู่กับคนรอบข้างเขา ก็แล้วแต่เขา ก็อยากให้เขาคิดได้ อยากให้เขาโต แค่นั้นเลย”