หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เวลาต้องส่งลูกเข้าโรงเรียนครั้งแรก ก็จะหวิวๆ ใจอยู่เหมือน “คุณแม่ชมพู่ อารยา” ที่บอกว่าขอเวลาทำใจ 20 ปีเลยนะ ก็เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา “พ่อน็อต” ควง “แม่ชม” และลูกชายฝาแฝด “สายฟ้า-พายุ” และลูกสาว “น้องแอบิเกล” บินไปเที่ยวที่อังกฤษ และถือโอกาสไปเที่ยวชมโรงเรียนประจำชายล้วนชื่อดังระดับโลก “Harrow School” ในย่านแฮร์โรว์ กรุงลอนดอน ซึ่งค่าเทอมก็ไม่ธรรมดา ข้อมูลจากเว็บไซต์ “Harrow School” ระบุว่าค่าเทอมสำหรับปีปัจจุบันอยู่ที่ 15,570 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทยราวๆ 665,292 บาท ต่อเทอม)
การไปครั้งนี้เป็นการไปศึกษาข้อมูลในเรื่องการเรียน กฎระเบียบต่างๆ รวมถึงการเป็นอยู่เพื่อเตรียมความพร้อม แต่ยังไม่ได้เข้าเรียนเร็วๆ นี้ น่าจะช่วงอายุ 13 ปี และยังต้องมีการสอบเข้าด้วย สิ่งที่ “พ่อน็อต-แม่ชม” อยากให้ลูกๆ เข้าเรียนที่นี่ เพราะอยากฝึกความรับผิดชอบ แน่นอนเด็กๆ ตื่นเต้นกันมาก ตอนนี้ “แม่ชม” ก็เริ่มเตรียมความพร้อมให้ลูกๆ แล้ว เพราะตอนนี้ก็ 5 ขวบกันแล้ว


“แม่ชม” ยอมรับว่าตอนนี้คิดวางแผนเอาไว้ว่าถ้าลูกชายทั้งสองคนไปเรียนเมืองนอก ก็ตั้งใจจะเกษียณจากวงการบันเทิงเลย
“เรื่องโรงเรียนถูกใจพ่อที่สุด แต่แม่ขอเวลาทำใจ จริงๆ ก็ยังไม่ใช่เวลานี้ อีก 8-9 ปีโน่น ก็รู้สึกว่ามันไวมาก ตอนนี้เขาก็ 6 ขวบแล้ว รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว ที่นั่นรับตอน 13 ก็แป๊บเดียว มันเหมือนเราไปทำความรู้จักมากกว่า เขายังไม่ได้รับเรา ก็ไปดูว่าเป็นยังไง เพราะเป็นโรงเรียนกินนอนถ้าไปอยู่จะเป็นยังไงบ้าง เหมือนสอบต้องเตรียมตัวยังไง ไปอยู่แล้วจะออกมาได้แค่ไหน เสาร์-อาทิตย์ออกมาได้แค่ไหน รวมถึงเรื่องกฎระเบียบต่างๆ เหมือนไปเรียนรู้ และพิจารณา”
สองหนุ่มตื่นเต้นแค่ไหมกับโรงเรียน
“ลูกก็ตื่นเต้น แต่สายฟ้าก็แบบนึกถึงอนาคตลังเลไม่ได้อยู่กับบ้าน ไม่ได้อยู่กับแม่ อยากให้เขาเป็นโน บอดี้ก็ด้วย เหมือนอยากให้เขาได้ฝึก เกณฑ์การรับเขาก็มีการสอบ ดูว่ามีความเป็นเอเชียกี่เปอร์เซ็นต์ สอบจากที่นี่ไป แล้วไปสอบสัมภาษณ์ที่โน่นต่อ ทางนั้นเขาก็บอกไกด์ไลน์ในเชิงวิชาการ ว่าสอบประเภทไหน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าลูกเราเก่งด้านไหน เหมือนยังอยู่อนุบาล ถึงตรงนั้นก็ดูกันอีกที สอบติดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
มีไปดูหลายโรงเรียนไหม
“จริงๆ ไปแค่ที่เดียว คือยังมีเวลาตัดสินใจอีกหลายปี เพียงแต่ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้ลอนดอน มีคนแนะนำ พาไปดูได้ ก็ไปทำการบ้านไว้ ก็สมมุติว่าต้องไปอยู่ที่นั่นจริงๆ ก็อาจไม่ได้มูฟไปเลย ก็ไปๆ มาๆ ส่วนที่มีข่าวว่าจะพักงานแล้วย้ายไปอยู่โน่นเลย อีกตั้ง 9 ปี ก็ทำไม่ไหวแล้วเปล่า มันหง่อมมากเลยนะ เรื่องร้านเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้นก็หมุนได้ ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ก็อาชีพแม่เป็นหลัก ตรงนี้ก็ถือว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ไปดูบ้านที่นั่นไว้บ้าง”
งานในวงการต่อไปวางแผนไว้ยังไง
“คือเป็นเรื่องของอนาคต ถึงเวลานั้นอาจไม่มีคนสนใจ โรงเรียนลูกจริงๆ ก็ยังเปลี่ยนไปมา ก็เปลี่ยนไปมาหลายที่ ส่วนลูกสาวอันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเขาโต อยู่แค่ประมาณ ป.2-ป.3 เขาก็จะ 8 ขวบ ตอนนี้ก็ยังมึนอยู่ว่าจะยังไง ลูกสาวก็มีสิทธิ์ไปอยู่ที่โน่นด้วย อาจไปๆ มาๆ คือพ่อเขาเชื่อว่ายังไงก็ต้องส่ง คืออนาคตยังไม่รู้ยังนึกภาพไม่ออก ตรงนี้ 2 เดือน ตรงนี้เดือนหนึ่ง มันเป็นเรื่องอนาคต ยังฟุ้งซ่านคิดไว้หลายแบบ”