‘มิเชล โหย่ว’ ได้เสนอชื่อเป็นคณะกรรมการโอลิมปิกสากล

ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีทองของ ‘มิเชล โหย่ว’ จริง ๆ หลังจากที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์  Everything Everywhere All at Once ไปครองเมื่อต้นปี ล่าสุดนักแสดงหญิงชาวมาเลเซีย วัย 61 ปี อาจจะได้ไป ‘รันวงการ’ กีฬาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งวงการ

            เมื่อมีรายงานข่าวว่ามิเชล โหย่วเป็น 1 ใน 8 คนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC (ไอโอซี) โดยการโหวตรับรองสมาชิกใหม่นี้จะมีขึ้นที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ในเดือนตุลาคมปีนี้

            คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เป็นองค์กรกีฬาที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนและโอลิมปิกฤดูหนาวสมัยใหม่ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1894 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

            ปัจจุบัน IOC มีสมาชิกที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมทั้งสิ้น 99 คน ประกอบด้วยบุคคลากรจากสาขาอาชีพต่าง ๆ ทั้งเชื้อพระวงศ์ เจ้าหน้าที่ด้านการกีฬา อดีตนักกีฬา ตลอดจนบรรดาผู้นำทางการเมือง และผู้นำกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักแสดงมืออาชีพอย่าง มิเชล โหย่ว จะได้ร่วมเป็นคณะกรรมการ

            นอกเหนือจากผลงานด้านการแสดงแล้ว มิเชล โหย่วยังมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับองค์กรระดับโลกอย่าง องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น มาแล้ว 2 ครั้งจากการเป็นตัวแทนประเทศบ้านเกิด มาเลเซีย ไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น และเป็นทูตสันถวไมตรี (goodwill ambassador) ให้กับโครงการพัฒนาของยูเอ็น

            ในส่วนของวงการกีฬานั้น มิเชล โหย่วมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งไม่น้อยผ่านสามี ฌอง ท็อดต์ ที่เคยเป็นอดีตผู้บริหารทีมเฟอร์รารีในการแข่งขัน  Formula One และอดีตประธานหน่วยงานกำกับดูแลกีฬาแข่งรถของฝรั่งเศสที่เรียกว่า FIA

            สำหรับคนที่คิดถึงผลงานด้านการแสดงของมิเชล โหย่วนั้น อดใจรออีกไม่นาน เพราะหนังใหม่ของเธอเรื่อง ‘A Haunting in Venice ฆาตกรรมหลอนแห่งเวนิส’ กำลังจะเข้าโรงฉายในวันที่ 14 กันยายนนี้แล้ว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ภาคต่อของหนังที่สร้างจากนิยายนักสืบสุดคลาสสิกของ อกาธา คริสตี้ ที่มี ‘แอร์กูล ปัวต์โร’ (นำแสดงโดย เคนเนธ บรานาห์) เป็นตัวเอก

            ‘A Haunting in Venice ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส’ ดำเนินเรื่องในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ‘แอร์กูล ปัวโรต์’ นักสืบชื่อดังเกษียณตัวเองแล้ว และเลือกไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหรูหราอย่าง เวนิส แต่แล้วเขากลับต้องเข้าไปร่วมในพิธีกรรมติดต่อวิญญาณเข้าโดยไม่เต็มใจ และเมื่อแขกคนหนึ่งถูกฆาตกรรม นักสืบวัยเกษียณจึงถูกผลักเข้าไปสืบหาข้อเท็จจริงในโลกที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย