จากกรณีที่พระเอกชื่อดัง “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” คอมเมนต์ในไอจีของนักแสดงหนุ่ม “แก๊ป จักริน” ที่ลงภาพจากละครคู่กับ “แคร์ วงศ์วชิรา” โดยแซวว่า “เรียบร้อยไม่ต้องเบ่ง” จนกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรง ก่อนถูกขุดคุ้ยในโลกทวิตเตอร์ว่าเป็นคนชอบเหยียดเพศ ซึ่ง “เกรท” เผยถึงเรื่องนี้หลังจากเคยขอโทษผ่านโซเชียลส่วนตัวมาแล้ว
เครียดขนาดไหนกับดราม่าที่ผ่านมา?
“อันนี้พูดส่วนตัวก่อนว่า จริงๆ ไม่อยากให้ประเด็นนี้มันถูกฟื้นขึ้นมาอีก ต้องบอกว่าเป็นความเจ็บปวด รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่มันออกไป เพราะว่าตอนที่โดนก็มานั่งนึกย้อนว่าเรารู้สึกไม่ดีกับคำพูดนั้น ทั้งๆ ที่น้องที่เราไปคอมเมนต์เป็นน้องผู้ชายที่สนิทและแมนๆ ทั้งคู่ แล้วก็สนิทกับเรา แต่เข้าใจในแง่มุมที่มันเกิดขึ้นเสียใจครับ ถือเป็นบททดสอบหนึ่งในชีวิตอยู่เหมือนกันที่ต้องพาจิตใจผ่านไป”

ทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้นไหม?
“ต้องอยู่แล้วครับ เรียกว่าเป็นบทเรียนของตัวเองเลย ว่าเรื่องของการคอมเมนต์หรืออะไร มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำที่จะไปกระทบจิตใจคนที่อ่านแล้วรู้สึก เราก็มานั่งคิดอยู่ตลอดว่าเราไม่น่าเป็นแบบนั้น แต่ก็มีหลายอย่างที่รู้สึก อย่างคนจะบอกว่าตัวเราเองเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ อันนี้ก็อยากจะพูดในส่วนตัวนิดหนึ่ง เพราะว่าไม่เคยรู้สึกที่จะเหยียดใคร หรือว่ารู้สึกไม่ดีกับใครเลย สิ่งที่เจ็บปวดอีกอย่างหนึ่งคือคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักเรา แต่ด่าว่าเราหนัก อันนี้เป็นเรื่องที่เสียใจ เพราะว่าไม่อยากให้คนที่กำลังเห็นเรา แล้วก็เข้าใจเราผิด อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ดีใจที่ได้พูดครับ เพราะเราไม่ใช่คนแบบนั้น”
เราทราบกระแสตีกลับตอนนั้นได้ยังไง?
“น้องแก๊ปเป็นคนบอก แบบว่าที่พี่ไปคอมเมนต์จะดราม่าไหม ผมก็เห็นแล้วก็คิดว่างานเข้าแน่เลย เลยลบดีกว่า คือต้องพูดจริงๆ ว่าเจตนาเราไม่คิดเหยียดใครอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องของการแซวกันกับน้องแบบผู้ชายๆ แต่ก็เข้าใจได้พอมันออกไปแล้วก็เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟก็เลยรู้สึกว่าเข้าใจแล้วว่าอันนี้ไม่เหมาะสม คิดว่าไม่ควรเกิดขึ้น แต่น้องๆ ที่เราไปแซวเขาไม่ได้ติดใจอะไรเลยครับ”

หลังจากเหตุการณ์นั้น เราพักโซเชียลหรือพักอ่านคอมเมนต์เลยไหม?
“อ๋อ…ไม่อ่านเลย เจ็บปวด ผมว่ามันเป็นวิธีการหนึ่งที่เราต้องผ่านมันไป เราก็ต้องมายอมรับกับตัวเองก่อนว่าเราเสียใจนะ พอเราเสียใจเราก็ต้องขอโทษ และต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่เราทำไม่เหมาะสมตรงไหน เลยต้องขอโทษผ่านสื่อที่ออกไป และหลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่ดูใจตัวเอง แล้วก็เห็นคอมเมนต์บ้าง แต่ก็พักก่อนดีกว่า เลยไม่ได้เล่นโซเชียลช่วงนั้นอยู่สักพักนึง ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างนึงที่จะทำให้เราผ่านมันไป แล้วก็จะเข้มแข็งขึ้น”
ทำให้ไม่กล้าไปคอมเมนต์แซวใครเลยไหม?
“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ยังคงแซวปกติ แต่ว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เล่น (ต้องอ่านทวนก่อน?) อะไรอย่างนั้นครับ ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้ว่าเราจะเล่นกับเพื่อนที่สนิทก็ตาม แต่เราเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้มันก็อาจจะมีคนอื่นที่อาจจะไม้ได้รู้จักเราจริงๆ และไม่ได้รู้ว่าความสัมพันธ์เรากับเพื่อนเราเป็นยังไง เขาอาจจะเข้าใจผิดได้ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือคนมีชื่อเสียง เรื่องนี้เป็นการบ้านที่เราจะต้องเก็บไปคิด แต่เราก็ยังคงเป็นตัวเองแบบนี้ แต่ว่าอะไรหลายๆ อย่างก็ต้องระวังตัวมากขึ้น”
แล้วพิจารณายังไงว่าอะไรที่ควรพูดหรือไม่ควรพูด?
“ผมว่ามันเริ่มต้นจากข้างในของเรา ส่วนหนึ่งผมสบายใจตรงที่ว่าเรารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนเหยียด ไม่ได้เป็นคนที่ชอบตำหนิ หรือด่าว่าคนอื่น ดังนั้นเรื่องนี้ก็เลยรู้สึกว่าเรามั่นใจว่าเราเป็นแบบนั้น แต่ว่าประเด็นคอมเมนต์ในเรื่องของการแซวที่อาจจะเกิดผลกระทบได้ก็ต้องมีสตินิดนึงในการเล่น”
สภาพจิตใจกว่าจะกลับมาได้นานไหม?
“นอยด์ไปประมาณวันหนึ่งแบบหนักๆ ก็ยอมรับกับตัวเอง คิดถึงโซเชียลเหมือนกันนะ แต่ประเด็นสำคัญที่อยู่ในใจเราตอนนั้น คือเรารู้สึกว่าคนที่ติดตามเรา เห็นเราเป็นแบบอย่าง หรือรักเราเป็นกำลังใจให้เรา สิ่งนี้คือสิ่งที่เสียใจที่สุดที่ทำให้เขาเข้าใจเราผิดซึ่งผมกล้าพูดเลยว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้น มันเป็นการคอมเมนต์ที่คึกคะนอง แล้วก็เล่นๆ กับน้องเท่านั้นเอง”
พอเราขอโทษแล้วแฟนๆ เข้าใจเราไหม?
“คือแฟนคลับผมส่วนใหญ่จะรู้ว่าคอมเมนต์นั้นเจตนาเราคืออะไร แต่คนที่ไม่รู้ก็อยากบอกให้รู้ ว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ (ยังเป็นเกรท วรินทรเหมือนเดิม?) เหมือนเดิม(ยิ้ม) ยังเป็นคนดี คนน่ารักเหมือนเดิม (คนดีที่ไหน?) ใช่อะไรแบบนั้น (ยิ้ม)” สล็อตแตกง่าย