หลังจากที่นักธุรกิจหนุ่ม “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” คุกเข่าขอนางเอกสาว “แพทริเซีย กู๊ด” แต่งงานไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุเแย้มฤกษ์วิวาห์ออกมาแล้วว่าเป็นปลายปีนี้
แพทริเซียไปลองชุด ใช่ชุดเจ้าสาวไหม?
“อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นชุดอะไรครับ แต่น่าจะเป็นหนึ่งในงานแต่งครับ ขอน้องไว้แล้ว พูดได้ครับ (ยิ้ม) ตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว ก็เตรียมตัวอยู่ มีฤกษ์แล้วครับ ภายในปีนี้ ก็จะเรียนเชิญทุกคนอย่างเป็นทางการอีกรอบด้วยครับ อีกไม่กี่เดือนแล้ว คือจริงๆ ฤกษ์เราได้ปีนี้เลย ไม่งั้นจะเป็น 2024 ก็เลยคิดว่าเอาเป็นปีนี้เลยแล้วกัน วันจะแจ้งอีกที แต่ประมาณเดือนธันวาคมครับ”
คอนเซ็ปท์ให้น้องเลือกได้เต็มที่เลยใช่ไหม?
“ใช่ เรามีแพลนเนอร์ แต่ว่ามีอะไรก็อยากให้น้องเคาะเลย ส่วนใหญ่ถ้าเขาเคาะได้ ผมก็โอเค ส่วนเรื่องธีมเดี๋ยวแจ้งอีกครับ ให้สิทธิ์น้องเต็มที่ ให้เขาตัดสินใจดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องเถียงกันครับ เรื่องความคิดไม่ตรงกันไม่ค่อยมีครับ จริงๆ ก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะส่วนใหญ่ความคิดหรืออะไรแบบนี้ มันค่อนข้างตรงกันหมด ตอนนี้ก็ได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ อยู่ในขั้นตอนอยู่ ก็ตื่นเต้นครับ”
ย้อนกลับไปโมเมนต์ขอแต่งงาน?
“คือเราตั้งใจว่าอยากจะเป็นเซอร์ไพรส์ แล้วด้วยการที่ผมเรียนรู้ว่าน้องเขาเป็นคนยังไง ก็คิดว่าอยากจะทำให้มันเป็นธรรมชาติที่สุด ก็เลยต้องหาโมเมนต์ที่มันเซอร์ไพรส์จริง ๆ จริงๆ อยากจะเล่าว่าเป็นครั้งที่สองในการขอ ไม่ใช่ว่าเป็นการขอครั้งที่สองนะครับ หมายถึงว่าเกือบจะขอเขาแล้วรอบนึง เดี๋ยววันไหนจะแชร์ภาพให้ดู คือให้เพื่อนๆ ดูทุกคนหัวเราะมาก คือมันเป็นโมเมนต์ที่ไม่ได้เฟล แต่คือผมจะขอแล้วมันคนตื่นเต้น เลยอะ โอเค ไม่ใช่ครั้งนี้ คือเป็นในทริปเดียวกัน แต่จังหวะมันไม่ดีตอนนี้ ผิดจากที่ตั้งใจไว้นิดหนึ่ง อยากที่บอกว่าพออะไรที่มันไม่ใช่เซอร์ไพรส์ หรือจังหวะมันไม่ได้ ก็เลยหยุดไว้ก่อน แล้วก็มีโมเมนต์อีกรอบครับ”
น้องรู้ตัวไหม?
“ไม่รู้ตัวเลยครับ มีภาพอยู่ เดี๋ยวจะแชร์ให้ดูครับ (ยิ้ม) คือพอครั้งแรกผ่านไป ก็รู้แล้วว่าเราต้องรวบรวมสติขนาดไหน ก็เลยพอทำใจก่อนได้ (หัวเราะ)”
น้องค่อนข้างหัวร้อนตอนนั้น?
“ใช่ครับ ก็ดูจังหวะตื่นมาแดดออก น้องอารมณ์ดี ดูทิศทางนิดนึง ผมก็วางแผนคนเดียว แต่ก็บอกทีบ้านไว้ครับ”
โมเมนต์คุกเข่าขอน้องแต่งงานเราพูดอะไร?
“ก็พูดไม่ออก แล้วก็พูดปกติ สิ่งที่เตียมกับที่พูดก็คล้าย ๆ กันครับ คือเราพูดไม่ออกไปสักพักนึง แล้วก็พูดออกมาว่า “โอเค แต่งงานกันไหม?” ประมาณนั้นครับ ถามว่าทำไมต้องเป็นชุดนั้น ผมรู้สึกว่าจังหวะชีวิตมันเป็นทริปที่ผมรู้สึกว่าผมกับน้องก็คบกันมา 3 ปี คิดว่าถ้าไม่ใช่เวลานี้ อีกปี สองปี ก็เป็นคนนี้อยู่ดี ก็เลยคิดว่าจังหวะนี้เลยดีกว่า ตอนแรกคิดว่าฤกษ์แต่งน่าจะเป็นต้นปีหน้า มีเวลาให้เตรียมตัว เพราะเท่าที่ผมเข้าใจมันต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว แต่พอไปดูวันก็ได้ประมาณเดือนธันวาคม เราไปดูฤกษ์ด้วยกัน ดูว่ามีปีนี้นะช่วงธันวาคมทันไหม หรือกับปี 2024 ต้นปีเลย ก็เลยดูว่าถ้าอย่างนั้นเราก็ทำให้เรียบร้อยไปเลยดีกว่า”
อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นภรรยาของเรา?
“ก็ด้วยเวลา และน้องเป็นคนที่น่ารักจริง ๆ จิตใจก็น่ารักมาก ให้ดูว่าไม่มีอะไรที่ผมจะติเขาได้ รู้สึกว่าคนนี้น่าจะเป็นคู่ของเรา และอย่างที่บอกว่าผมรู้สึกจริง ๆ ว่า ถ้าไม่ใช่ปีนี้อีก 2 – 3 ปี ผมก็ขอเขาอยู่ดี ก็เลยคิดว่าน่าจะได้แล้ว ก็เลยลองดู”
เคยบอกคำนี้กับน้องไหม?
“ก็บอกครับ เพราะเขาก็ถามว่าทำไมเป็นเขา น้องก็เขิน ถามว่าแพ้ทางไหม ผมไม่แน่ใจความหมาย แต่ผมรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีแบบธรรมชาติมาก ๆ ผมว่าตรงนี้มันสำคัญ และอยู่ด้วยแล้วก็สบายใจครับ”
งานแต่งงานใหญ่?
“ก็คุยกันแพทก็อยากจะได้งานที่เป็นกันเอง แล้วพอเราเริ่มชวนคนมา เริ่มจากเล็ก ๆ มันก็จะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น แต่ผมว่าเป็นกลาง ๆ ดีกว่า ก็จะชวนแต่เพื่อนที่รู้จัก ที่ภูเก็ตก็ไม่แน่ แต่อย่างที่บอกว่าเราอาจจะมีมากกว่า 1 งาน (จัด 2 ที่?) ประมาณ 2 ที่ถ้าเป็นไปได้ครับ”
อนาคตครอบครัวเราจะใหญ่แค่ไหน?
“(ยิ้ม) ก็อยากปล่อยเป็นธรรมชาติ แต่ผมก็อยากจะมีน้องสัก 2 – 3 คน ก็อยากให้เท่าพี่ชาย (น็อต วิศรุต) เพราะหลาน ๆ ที่บ้านก็ 10 คนแล้วครับ ถามว่าคุยกับน้องหรือยัง ก็อย่างที่บอกครับเรามีความคิดค่อนข้างตรงกัน พอบอก 2 – 3 คน เขาก็โอเค (แฝดไหม?) ก็ตามธรรมชาติเลยครับ ถ้าแฝดก็ดี น่ารักดีครับ”
หลังแต่งก็มีได้เลย หรือน้องมีงานค้างไหม?
“อันนี้ต้องถามน้องครับ”
พร้อมใช้ชีวิตคู่?
“ใช่ครับ อันนี้ก็อยากให้ถามเพิ่มวันจริงมากกว่า เดี๋ยววันนั้นไม่มีอะไรพูด (หัวเราะ) ก็อยากจะมานั่งกับน้องแล้วบอก ส่วนเรื่องสถานที่ก็ได้แล้วครับ เดี๋ยวแจ้งอีกทีครับ (ยิ้ม)”