ถึงแม้ว่าความสนใจที่คนมีให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะลดน้อยถอยลงไปมากแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับนักแสดงและผู้กำกับคนดังจากฮอลลีวู้ดอย่าง “ฌอน เพนน์” ที่ล่าสุดเขาได้นำรางวัลออสการ์ที่ตัวเองได้รับไปมอบให้กับประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี้ ถึงประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เพนน์กระทำการดังกล่าวลงไปก็เพื่อประกาศให้โลกรู้ และให้สื่อหันมาสนใจว่าเขายังคงให้การสนับสนุนยูเครนท่ามกลางสงครามที่ยังดำเนินอยู่ โดยในตอนที่ไปส่งมอบรางวัลออสการ์ให้กับมือของประธานาธิบดีเซเลนสกี้เองนั้น เขาได้บอกไปว่าค่อยเอารางวัลตัวนี้มามอบคืนให้กับเขาตอนที่ยูเครนชนะรัสเซียก็แล้วกัน
“ถ้าคุณชนะแล้วค่อยเอามันกลับไปมาลิบู ผมจะรู้สึกดีมากกว่าถ้าได้รู้ว่าส่วนหนึ่งของผมได้อยู่ที่นี่” เพนน์กล่าวกับผู้นำยูเครน



ทั้งนี้ รัสเซียได้เปิดฉากบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาท่ามกลางการประนามของชาวโลก ซึ่งนับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น ฌอน เพนน์ ได้เดินทางมาเยือนประเทศยูเครนแล้ว 3 ครั้ง นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนแล้ว เขายังไปเพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ด้วย โดยผู้กำกับคนดังได้เริ่มการถ่ายทำในเดือนมีนาคม ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจริง
ฌอย เพนน์ วัย 62 ปี ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาแล้ว 2 ครั้ง จากภาพยนตร์เรื่อง Mystic River ในปี 2003 และภาพยนตร์เรื่อง Milk ในปี 2008
“นี่สำหรับคุณ มันเป็นแค่สัญลักษณ์ ของงี่เง่าๆ แต่ถ้าผมได้รู้ว่ามันอยู่กับคุณที่นี่ ผมจะรู้สึกดีขึ้น และเข้มแข็งขึ้นสำหรับการต่อสู้” เพนน์กล่าวกับเซเลนสกี้ที่เขาเรียกว่าเป็น “มิตรผู้ยิ่งใหญ่” ของเขา
แน่นอนว่าการประกาศจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างโจ่งแจ้งของฌอน เพนน์ ส่งผลให้เขาถูกทางการรัสเซียสั่งแบน ห้ามเดินทางเข้าประเทศเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นรัสเซียออกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อชาวอเมริกัน 25 คน โดยนอกจากเพนน์แล้วก็ยังมี เบน สติลเลอร์ นักแสดงอีกคนที่ถูกแบนเพราะเดินทางไปยูเครนเช่นกัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ วัย 44 ปี เคยเป็นนักแสดงมาก่อน แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากบทที่เขาล้อเลียนการเมืองก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดียูเครน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาได้รับแรงสนับสนุนจากคนบันเทิงทั่วโลก โดยที่ผ่านมาเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติหลายแห่งได้ประกาศจุดยืนว่าสนับสนุนยูเครนด้วยการเชิญเซเลนสกี้ให้กล่าวคำปราศรัยในงานผ่านจอภาพวีดิโอบ้าง หรือไม่ก็มีช่วงที่อุทิศให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครนบ้าง