. คู่จิ้นชื่อดัง “มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” และ “อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” ที่โด่งดัง จาก “KinnPorsche The Series” แต่มีคนรักมากก็ย่อมมีคนเกลียดเช่นกัน โดยผู้บริหารค่ายได้ออกมาเปิดเผยว่าคู่นี้เจอทั้งพายุดรามาที่โหมกระหน่ำรวมถึงการถูกขู่ฆ่าด้วย
ล่าสุดมีข่าวลือว่ามีคนขู่ฆ่าอาโป?
อาโป : “คือมีคนเล่าให้ฟังบ้าง แต่ว่าไม่ได้เห็นเองเป็นตัวหนังสือ โปรู้สึกว่ามันมีทั้งมุมที่ดีและไม่ดีในการใช้โซเชียล คือโปไม่ค่อยแคร์อะไรที่มันเป็นเนกาทีฟเท่าไหร่ ถามว่าตกใจไหมตอนที่ได้ยินคนมาเล่าให้ฟัง เรียกว่าไม่ได้แคร์ดีกว่า(ยิ้ม) ถ้าในมุมของโปรู้สึกว่าโปใช้ชีวิตมาแฮปปี้ก็คุ้มแล้ว ถ้ามันจะเกิดขึ้น…ก็มาดิ”

ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยเหรอ?
อาโป : “ไม่ๆ ก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ เขาจะใช้โซเชียลในแบบไหนก็ได้ เชื่อว่าเราไม่ใช่คนแรกหรอกที่โดนเรื่องแบบนี้ แต่แค่รู้สึกว่าถ้าเราไปโฟกัสสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วเราใช้ชีวิตไม่มีความสุขอ่ะ เราไม่ทำ (เจอแบบนี้บางคนอาจจะระแวงในการใช้ชีวิต?) อ๋อ…ไม่เลยครับ อย่างที่บอกว่าไม่ได้แคร์เลย ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแปลกๆ แฟนๆ ทั่วโลกน่ารักมาก”
อะไรที่ทำให้ตัวเราไม่กลัว?
อาโป : “อย่างที่บอกว่าถ้าเราโฟกัสแค่สิ่งสิ่งเดียวที่มันเป็นเนกาทีฟ แล้วไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น แต่มัวมานั่งโฟกัสอยู่กับเรื่องแค่นี้ แบบนั้นเราจะเดินต่อไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องแคร์ดีกว่า สมมติว่าถ้าเราขับรถไป มันก็จะมีทั้งขับแล้วปลอดภัยกับขับแล้วไม่ปลอดภัย แต่ถ้าเราไปโฟกัสว่าขับแล้วไม่ปลอดภัยเราจะไม่มีความสุข แล้วทุกอย่างมันเป็นเรื่องธรรมชาติเกิดแก่เจ็บตาย”
ที่ผ่านมาเจอเฟกนิวส์เยอะมากคิดจะเอาเรื่องบ้างไหม?
อาโป : “ส่วนตัวมองว่าเป้าหมายระหว่างโปกับค่าย Be On Cloud ตั้งเป้าไว้คือมันไกลมาก ฉะนั้นเรื่องพวกนี้มันหยุมหยิม ซึ่งเราไม่สามารถไปบังคับให้ทุกคนคิดแบบที่เราเชื่อได้ โปเองผ่านอะไรมาก็ไม่น้อย ณ วันนี้ขอใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า ถ้าวันนี้มันจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตก็ถือว่าแฮปปี้แล้ว”
แล้วมายเองเคยโดนอะไรแบบนี้บ้างไหม?
มาย : “ไม่โดนนะเพราะว่า…ไม่อ่านมากกว่า(หัวเราะ) จริงๆ แล้วต้องขอขอบคุณแฟนๆ ด้วยว่าคนที่ให้ความสนใจเราทั้งชอบและไม่ชอบเยอะมาก ฉะนั้นผมไม่มีความสามารถพิเศษที่จะไปโฟกัสแค่เรื่องเนกาทีฟ อาจจะเพราะมายด์เซ็ตของเราด้วย อย่างอันนี้ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าโปถูกขู่ แต่เรื่องขู่เนี่ยเอาจริงๆ มีตั้งแต่แรกๆ แล้ว ตอนนั้นก็แค่มองว่ามาขู่ฆ่ากูทำไมวะ(หัวเราะ) แล้วเนื้อความภาษาหลายๆ อย่าง ณ เวลานั้นก็ดูไม่ได้เมกเซ้นส์ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใคร”
อาโป : “ณ วันนี้พวกเราและทีมโตขึ้นก็เลยคุยกันว่าอะไรที่มันหยุมหยิม เราก็จะไม่ได้สนใจมาก สมมติถ้าเราไปตามฟ้องเราก็จะวนอยู่กับที่ ในขณะที่ทุกวันนี้มันมีงานใหญ่ๆ อีกเยอะมาก ซึ่งเรายังต้องเดินไปอีกไกลมาก ถ้าวันนี้เราสะดุดก็แค่ช่างแม่xแล้วก็เดินต่อ”

ชื่อเสียงที่เข้ามามันทำให้ตัวเราต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตไหม?
มาย : “มีบ้างครับเพราะว่าด้วยเวลาที่น้อยลง ไลฟ์สไตล์ที่มันเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเราเป็นคนที่รักอิสระมากๆ ทุกวันนี้ก็ได้ทำอะไรน้อยลง”
อยากบอกอะไรกับคนที่เกลียดเรา?
มาย : “ไม่ชอบก็ดูได้(ยิ้ม) แต่ก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องมารักเรา ทุกคนก็แค่เป็นตัวของตัวเอง แต่อย่าลืมว่ายิ่งคิดลบเท่าไหร่มันยิ่งทุกข์และบาปในใจกับตัวเราเอง”
อาโป : “ส่วนแฟนๆ ทุกที่เลยบนโลกที่รัก เป็นห่วงและซับพอร์ตเรามาตลอด อยากให้เชื่อในสิ่งที่พวกเราเชื่อ ในทางที่เราเดินไป ในความสุขที่เราพยายามส่งให้ตลอด บอกเลยว่าพวกเราไม่ได้รู้สึกใดใดทั้งสิ้นกับเนกาทีฟพวกนั้น เราไม่แคร์ด้วยซ้ำ แล้วเราเดินต่อเพื่อที่จะส่งความสุขให้ถึงทุกคนจริงๆ ในทุกที่ที่เราไป ยังไงก็รักตัวเองกันเยอะๆ นะครับ พวกเราดูแลตัวเองอย่างดี(ยิ้ม)”