เรื่องผมบนหัวของ ‘เจด้า พิงเคตต์ สมิธ’ เคยนำไปสู่เหตุการณ์อื้อฉาวที่สุดครั้งหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดมาแล้ว ดังนั้น การที่เธอออกมาอัพเดทว่าตอนนี้อาการป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม ๆ (alopecia areata) ดีขึ้นจนทำให้ผมเริ่มขึ้นแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามเช่นกัน
เจด้า เป็นนักแสดงหญิงชาวอเมริกัน วัย 51 ปี ผู้เป็นภรรยาของ วิล สมิธ มีลูกด้วยกันสองคน คือ จาเดน และวิลโลว์ สมิธ ซึ่งต่างก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในวงการด้วยเช่นกัน จึงทำให้ครอบครัวนี้ถือเป็นครอบครัวเซเล็บครอบครัวหนึ่งของวงการ

ส่วนเรื่องอื้อฉาวที่ว่านั้นเกิดขึ้นในงานประกาศรางวัลออสการ์ ปี 2022 เมื่อคริส ร็อค ผู้ทำหน้าที่พิธีกรในงาน ได้เล่นมุกแซวทรงผมของ เจด้า ว่าเหมือนจีไอ เจน จนเจ้าตัวถึงกับหน้าเสีย และทำให้วิล สมิธ ผู้เป็นสามีฟิวส์ขาด เดินดุ่ม ๆ ขึ้นไปตบหน้าคริส ร็อคบนเวที ท่ามกลางความตะลึงงันของคนหลายล้านคน เพราะงานนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกด้วย
หลังเกิดเหตุ วิล สมิธ ถูกผู้จัดงานออสการ์ประกาศแบน ไม่ให้เข้าร่วมงานเป็นเวลา 10 ปี ขณะที่สังคมก็ได้รับรู้ว่าจริง ๆ แล้วที่เจด้าทำผมทรงนี้ไม่ได้เป็นแฟชั่น แต่เธอป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ๆ มานานหลายปีแล้ว และเรื่องนี้มีผลกับจิตใจของเธอจึงทำให้ผู้เป็นสามีเกิดอาการไม่พอใจรุนแรงขนาดนั้นที่เห็นคนเป็นภรรยาถูกแซวในเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของเธอ

ดังนั้น การที่อาการป่วยของเธอดีขึ้นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยล่าสุด เจด้าได้ออกมาโพสต์ภาพตัวเองลงในไอจีส่วนตัว @jadapinkettsmith ที่มีผู้ติดตาม 11.4 ล้านคน โดยภาพแรกเป็นภาพศีรษะที่ล้านเลี่ยนแทบไม่มีผม และภาพที่ผมเริ่มขึ้นมาปกคลุมไม่น้อยแล้ว
เจด้าได้เขียนคำบรรยายเอาไว้ว่า “ผมมันทำท่าเหมือนกับว่ามันจะพยายามกลับมาแล้ว ยังมีจุดที่เป็นปัญหาอยู่บ้าง แล้วมาดูกัน ภาพแรก อดีต ภาพ 2 ปัจจุบัน”
ทั้งนี้ เจด้าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคผมร่วมเป็นหย่อม ๆ มาตั้งแต่ปี 2018 เธอเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘เร้ด เทเบิล ทอล์ค’ (Red Table Talk) เอาไว้ว่าตอนที่เกิดเรื่องครั้งแรกนั้นมันน่ากลัวมาก ตอนนั้นเธอกำลังอาบน้ำอยู่แล้วผมหย่อมหนึ่งก็หลุดติดมือเธอออกมาจนทำให้เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะหัวล้านใช่ไหม
“มันเป็นไม่กี่ครั้งในชีวิตที่ฉันตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างแท้จริง” เจด้ากล่าว
หลังจากนั้น ผมด้านบนของเจด้าก็ร่วงหมดจนทำให้เธอตัดสินใจโกนผมทิ้งไปเลยตามคำแนะนำของลูกสาว
“ตอนนี้มันมาถึงจุดที่ฉันทำได้แค่หัวเราะเท่านั้น พวกคุณคงรู้แล้วว่าฉันเป็นโรค alopecia มันค่อนข้างที่จะปิดบังอีกต่อไป ฉันก็เลยคิดว่าออกมาแชร์ (ภาพ) ไปเลยดีกว่าพวกคุณจะได้ไม่ต้องมาคอยถามคำถามกันอยู่อีก”