ก่อนหน้านี้ดาราสาว “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศรียรเกล้า” ได้ออกมาโพสต์โซเชียลของตัวเองระบุว่าถูกขโมยขึ้นบ้านและกวาดกระเป๋ารวมถึงของแบรนด์เนมไปมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท จากนั้นเกรซก็โพสต์คลิปอีก โดยเป็นคลิปที่เธอไปดักซุ่ม เพื่อล่อซื้อของที่เธอถูกบุกเข้าไปปล้น จนสามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งเกรซเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
“ตอนนี้จับตัวคนร้ายได้แล้วส่วนของได้คืนเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือบางส่วนที่ตามจากร้านรับซื้อ ตัวผู้ร้ายถูกฝากขังอยู่ที่ศาลค่ะ ย้อนกลับไปตัวเกรซทราบเรื่องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.65) วันที่เกรซโพสต์คือวันที่รู้ คุณแม่เป็นคนโทรมาบอก ตัวเกรซอยู่ที่คอนโด โดนขโขมยวันพฤหัสบดีช่วง ตี 3 – ตี 4 พอได้คุยกับทางตำรวจแล้วที่เขาสอบข้อมูลมา โจรเปิดประตูห้อง “แกรนด์” (น้องสาว) ด้วย แล้วแกรนด์ก็เห็นเป็นเงาตะคุ่มก็เลยตะโกน ‘ใครอะ?’ ทางโจรก็เลยหนีไป แกรนด์บอกว่าก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็วิ่งตามไป แต่ก็ไม่เจอเพราะโจรหนีไปแล้ว ตอนนั้นในบ้านอยู่กันหมดทุกคนเลยค่ะ
ที่รู้ว่าคนร้ายเป็นคนนี้ เพราะได้คุยกับร้านรับซื้อ ด้วยความที่เราลงโซเชียล ในนาทีที่เกรซตัดสินใจว่าจะลงประกาศในโซเชียล ก็เลยลงมูลค่าของๆ ตัวเอง รวมถึงลงรายละเอียดในกระเป๋า เพราะไมได้เป็นรุ่นที่หาได้ทั่วไปในตอนนี้ เป็นกระเป๋าที่ซื้อนานแล้ว ราคามันจะขึ้น เกรซก็เลยลงไปเลยว่าเป็นรุ่นไหน สีอะไร ราคายังไงบ้าง และลงรูปตามหลังเลยทำให้ได้ข้อมูลมาค่อนข้างเร็ว ตอนนี้ยังเหลือกำไรอีก 2 – 3 อัน ก็รู้แหล่งรับซื้อแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณทุกคน (ไหว้) ขอบคุณพลังโซเชียล ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันกระจายข่าว รวมถึงทุกๆ กำลังใจด้วยค่ะ เพราะมีส่วนมากๆ ในกรุ๊ปร้านรับซื้อของแบรนด์เนมอันนี้ต้องขอบคุณทุกคนเลยจริงๆ ที่เห็นแล้วช่วยกันติดตามค่ะ ร้านเขารับซื้อไปแล้วและยินดีคืนให้และช่วยตามเพราะเขามีเครือข่ายกันอยู่แล้ว เขาสามารถคืนเงินลูกค้าแล้วเอาของมาได้ ตรงนี้ก็โชคดีก็ต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ ”

นาทีที่เราไปจับโจร?
“สถานการณ์ตรงนั้นก็แอบตื่นเต้นนิดนึง เพราะว่าเราไม่เจอเรื่องอะไรแบบนี้บ่อยๆ ตัวเองก็อยากไปดูให้เห็นกับตาด้วยว่าเป็นคนใกล้ตัวหรือเปล่า เพราะเป็นผู้ชาย 2 คน ความจริงแล้วก็มีความกังวลเหมือนกันว่าไม่อยากให้เป็นคนใกล้ตัว เราไม่ได้ถึงขั้นสงสัยว่าเป็นใคร แต่แค่รู้สึกว่าเป็นคนใกล้ตัวหรือเปล่า ทำไมถึงรู้ว่าวันนี้เราไม่กลับบ้าน เพราะปกติเกรซจะแบ่งวันกลับระหว่างคอนโดกับบ้าน แต่ก็มีการพูดคุยกับร้านรับซื้อเหมือนกันว่าเราจะมีการหลอกล่อ ด้วยความที่ของที่โจรขโมยไปเป็นของร้อน เวลาที่ปล่อยคือเขาปล่อยที่นั่นหมดเลย ก็เลยได้จัดการรวบหมดเลย ก็เลยได้ของทั้งหมดกลับมาเลย ซึ่งเกรซก็มีวางแผนกับเจ้าหน้าที่ วางแผนกับทางร้านรับซื้อว่าจะทำการล่อซื้อที่ไหน ยังไงก็แล้วแต่เขาสะดวก แล้วให้สืบสวนปลอมตัวเป็นบุคคลธรรมดาไปอยู่แถวนั้น ก็ได้เห็นของที่เป็นของเราหมดเลย ก็รู้สึกว่าเก่งมากๆ คือเรารู้ตั้งแต่วันที่เขาเข้าบ้านแล้วว่าประตูมันถูกง้างไว้เลย ทางบ้านก็รู้แล้วว่าถูกขโมยขึ้น”
ตามเอง บุกเอง?
“ใช่ค่ะ เพราะเราเองก็อยากที่จะรู้ แล้วพอเราลุยเองบางคนก็บอกไม่กลัวอันตรายเหรอ คือเราก็กลัวแหละ แต่เราไม่ได้ไปนาทีที่บุกจับเลย เราอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น เรารอสแตนบายอยู่บนรถ พอเขารวบได้แล้วเราก็เข้าไป ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สืบสวนไป คนร้ายไม่ใช่คนใกล้ตัว เป็นโจรร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ”
ได้ถามไหมทำไมเขารู้ช่องทางบ้านเรา?
“เขาบอกว่าเขาสืบรู้เองว่าบ้านนี้เป็นบ้านของนักแสดง เป็นบ้านของเกรซ ที่บ้านก็มีรอบเท้าที่ทำให้รู้ว่าเป็นผู้ชาย ตอนที่เข้าไปเขาเข้าทุกห้อง อาศัยช่วงที่คนในบ้านหลับสนิท เช็คว่าห้องไหนมีคนเขาก็ไม่ได้เข้า มีร่องรอยในการงัด ก็มีกล้องที่บ้านและของหมู่บ้านก็เลยรู้ว่าเขาเข้ามาในช่วงเวลาไหน”

หลังจากตำรวจจับแล้วได้สอบสวนยังไงบ้าง?
“ก็ได้สอบถามไปทางตำรวจเหมือนกันค่ะ เพราะในห้องสอบสวนเกรซจะเข้าไม่ได้ ก็มีถามว่าที่มาที่ไปยังไง เวลาอะไร เขาก็ยอมรับ รวมถึงคนร้านคนนี้ก็มีคดีติดตัวมาอยู่แล้ว เสิร์ชชื่อก็จะเจอเป็นคดีวิ่งราวเหมือนกัน ตอนที่ไปเจอคนร้ายเกรซไม่ได้รู้สึกว่าจะไปทำอะไรเขา เพราะเขาก็ได้รับในสิ่งที่เขาทำแล้ว ในผลตรงนั้นแล้ว ก็พอแล้ว ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยสักคำ ไม่ได้ให้ค่าอะไร เกรซก็เดินไปตรวจของและเช็คว่าเป็นของเราจริงนะ แล้วมันไม่ได้มีของๆ คนอื่นมาด้วยนะ ในเมื่อเป็นของเราทั้งหมดก็โอเคจบตรงนั้น ที่เหลือก็เป็นกระบวนการทางกฎหมายทั้งหมดเลยค่ะ”
จากเกิดเหตุการณ์ที่บ้านมีมาตรการอะไรเพิ่มไหม?
“ก็มีค่ะ จริงๆ ก็มีมาตรการแน่นหนาอยู่แล้วนะคะ เพียงแต่ว่าการงัดบ้าน การปีนเข้าบ้านมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวที่บ้านก็คงมีกล้องมากขึ้น ส่วนของมีค่าก็คงต้องแน่นหนาขึ้น ซึ่งจริงๆ มันก็อยู่ในตู้ อยู่ที่ในที่ปลอดภัยอยู่แล้ว เกรซว่าอันนี้มันป็นเรื่องเจตนาของแต่ละคน น่าจะห้ามกันยาก ในเรื่องของซิคิวริตี้เราก็เต็มที่ค่ะ”
ตอนแรกคิดไหมว่าจะได้คืน?
“ตอนแรกก็คิดไว้ว่าจะได้คืนไหมนะ แต่ก็มีความมั่นใจว่ายังไงเราจะต้องตามกลับคืนมาได้ เพราะมันไม่ได้เป็นของที่จะขายออกไปได้ง่ายขนาดนั้น ด้วยราคาด้วยอะไร ถ้าไม่ได้ขายตัดทุนต่ำจริงๆ มันก็จะแอบยากเพราะมันเป็นรุ่นที่ลิมิเต็ดด้วย ตอนที่โพสต์ก็คิดเหมือนกันว่าอาจจะเป็นช่องทางให้โจรรู้ตัว ก็คิด 2 ทาง ก่อนโพสต์ตัดสินใจนานมากว่าจะโพสต์ดีไหม เพราะถ้าโพสต์แล้วมันจะเป็นการกระโตกกระตากให้รู้ตัว แต่เราก็คิดว่าเราลองกระจายข่าวดีกว่าเพราะเวลาที่รับซื้อไปแล้วจะได้เกิดการปกป้องได้หลายทาง ถ้าตำรวจมาตามทีหลังทางร้านก็จะมีความผิดด้วย ก็เลยคิดในแง่ส่วนรวมว่ามันน่าจะดีกว่าในการที่เราลงสื่อแจ้งให้ทราบโดยทันทีที่เรารู้ดีกว่า
หลังจากที่โพสต์ไปก็เย็นวันนั้นเลยที่สามารถสืบได้ แล้วก็ตามจับแต่ว่าเรื่องราวกว่าจะเสร็จสิ้น กระบวนการทางกฎหมายกว่าจะเสร็จสิ้นก็เป็นเย็นวันเสาร์ (8 ต.ค.65) ก็เลยลงเมื่อวานนี้ รวบรวมรายละเอียดต่างๆ ลง วันที่ไปล่อวื้อคือวันศุกร์ตอนกลางคืน (7 ต.ค.65) น่าจะเป็นช่วงที่เขาได้ของมาแล้วอยากจะปล่อยแล้ว ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ช่วยเป็นสายกัน ขอบคุณร้านรับซื้อที่แจ้งมาทางเกรซด้วย ยืนยันความบริสุทธิ์ใจกันเต็มที่ ช่วยตามของให้กลับคืนมาให้ได้”

สภาพจิตใจของคนที่บ้าน?
“ในคืนแรกก็มีความกลัวนะคะ เพราะมันค่อนข้างเป็นเรื่องอุกฉกรรจ์ แล้วมันค่อนข้างอันตรายด้วย ในตอนที่โดนขโมยโชคดีที่ยังหายแค่ของ ไมได้มีใครเป็นอะไร ก็มีความหวาดระแวงอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ทุกคนก็สภาพจิตใจดีขึ้น โอเคขึ้นแล้วค่ะ พอได้ของกลับคืนมารวมถึงจับตัวคนร้ายได้แล้วด้วย คนร้ายก็ให้ความร่วมมือกับตรวจ ทุกอย่างหลังจากนี้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้น คนร้ายถูกฝากขังไว้ที่ศาล แล้วก็จะมีการขึ้นศาลเรียกร้องค่าเสียหายกันอีกทีระหว่างร้านรับซื้อกับทางคนร้ายจริง ๆ ในส่วนตัวของเกรซไม่ต้องไปศาลแล้วค่ะ เพราะเราได้ทรัพย์สินที่เป็นของเรากลับคืนมาหมดแล้ว คนร้ายก็ยอมรับทุกอย่าง ทางร้านรับซื้อก็อาจจะเป็นผู้เสียหายต่อไป ของเกรซจบแล้วค่ะ”