‘เซย์น มาลิก’ อดีตสมาชิกวงวัน ไดเร็กชั่น วงบอยแบนด์สัญชาติอังกฤษที่ได้ชื่อว่าเป็นวงดนตรีที่ดังที่สุดในโลกในยุคหนึ่ง ได้ออกมาเปิดอกพูดถึงสาเหตุที่เขาออกจากวง หลังจากที่เงียบหาย ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ มานานถึง 6 ปี
โดยมาลิกบอกว่าเขารู้อยู่แก่ใจว่าช่วงเวลาที่สมาชิกวงวัน ไดเร็กชั่นจะอยู่ด้วยกันนั้นมันใกล้จะหมดลงไปทุกทีเมื่อเพื่อน ๆ ของเขาไม่ยอมเซ็นสัญญาฉบับใหม่กัน
“ผมรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ผมก็เลยทำล่วงหน้าไปก่อน แบบว่า ผมก็แค่ต้องออกไปจากที่นี่ ผมคิดว่ามันจบแล้ว”
มาลิกเล่าเรื่องนี้เอาไว้ระหว่างที่ไปออกรายการพอดคาสต์ที่ชื่อว่า Call Her Daddy (คอลล์ เฮอร์ แดดดี้) เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อโปรโมทซิงเกิลใหม่ของเขาชื่อ Love Like This ที่กำลังจะปล่อยมาให้ฟังกันเร็ว ๆ นี้
“ผมเห็นแก่ตัวสุดๆ ที่ต้องการเป็นคนแรกที่จะออกแล้วไปทำเพลงของตัวเอง ถ้าจะพูดกับคุณแบบสัตย์จริงเลยละก็ เวลาเป็นเรื่องเพลงแล้วก็เรื่องธุรกิจของผมเอง ผมจะซีเรียสกับมันเป็นอย่างมาก แล้วผมก็ชอบการแข่งขันด้วย ผมก็เลยอยากเป็นคนแรกที่ออกไป แล้วก็ไปทำอะไรของผมเอง นั่นคือเหตุผล”
ทั้งนี้ เซย์น มาลิกออกจากวงวัน ไดเร็กชั่นระหว่างที่พวกเขากำลังออกทัวร์กันในปี 2015 โดยตอนนั้นเขาให้เหตุผลว่ามาจากความเครียด
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ในวงนั้น มาลิกบอกว่ามันก็เห็นได้ชัดนะว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่ในความสัมพันธ์ของพวกเขา
“เราเอียนกันจะแย่ ถ้าให้ผมพูดตรงๆ เราสนิทกัน เราทำอะไรบ้าๆ แบบที่คนอื่นในโลกเค้าไม่มีทางเข้าใจมาด้วยกัน ตอนนี้ผมย้อนกลับไปมองมันด้วยความชอบมากขึ้น มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ผมมีช่วงเวลาที่สุดยอดกับพวกเขา แต่เพียงแค่มันหมดเวลาแล้วเท่านั้น”
ตอนนี้เซย์น มาลิกเพิ่งเซ็นสัญญากับค่ายเมอร์คิวรี เรคคอร์ดสไปเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนเพลง Love Like This ของเขามีกำหนดปล่อยให้ฟังกันในวันที่ 21 กรกฎาคม
ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวนั้น เขาแต่งงานกับ จีจี้ ฮาดิด ซูเปอร์โมเดลระดับโลก มีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่งก่อนจะหย่ากันในเดือนตุลาคม 2021 ปัจจุบันทั้งคู่มีสิทธิ์ในการดูแลลูกเท่าๆ กัน ซึ่งมาลิกบอกว่าการเป็นพ่อคนมันทำให้เขาเปลี่ยนไป แถมยังช่วยเขาเรื่องอาการวิตกกังวลด้วย
“ตั้งแต่มีลูก สิ่งสำคัญในหัวผมคือการพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมเคยวิตกกังวลมากถ้าต้องมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ แต่ผมอยากให้ลูกสามารถมองผมแล้วพูดว่า พ่อทำสิ่งนี้ได้”