เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงหนักมาก เมื่อ “ติ๋ม ทีวีพูล” เจ้าแม่สื่อใหญ่ออกมาเปิดเผยชีวิตในคุกของ “ใบเตย อาร์สยาม” ว่า ใบเตย ทุกข์เพราะคิดถึงลูกมากๆ พร้อมทั้งยังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตกมันส์บันเทิง ถึงประเด็นของ ใบเตย-ดีเจแมน หลังจากที่ทนายได้เข้าไปเยี่ยม
“ก่อนหน้านี้เขาจะมาหาตอนที่ยังไม่ได้ติดคุก เขามาที่บ้านบ่อยเพราะเขาอยู่ค่ายใหญ่ก็จะมีพีอาร์พามาหาอยู่ตลอดเป็นปกติ มีอยู่วันนึงเขามานั่งแต่ไม่ได้ฉายแววว่าเป็นใบเตย เขาจะนั่งอยู่เงียบๆ จนกระทั่งทุกคนกลับไปหมดแล้วเขาก็บอกว่าเขาคือใบเตย จำเขาเกือบไม่ได้เพราะเขาไม่ได้แต่งหน้า ไม่ได้โชว์ว่าเป็นใบเตย อาร์สยาม นั่งอยู่เงียบๆ หลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้วเขาก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
หลังจากนั้นเขาก็ขอไลน์ทักไลน์มาปรึกษาบ้าง ขอกำลังใจ จนกระทั่งก่อนวันที่ 8 พ.ค. ที่เขาจะไปขึ้นศาล เขาก็มาพบก่อนหนึ่งวัน ดีเจแมนก็มาด้วย วันนั้นเป็นวันที่เราคุยเรื่องคดีกันแบบลึกมากเขาก็ต้องไปฟังว่าอัยการจะสั่งฟ้องเขาไหม วันนั้นพี่ก็เลยได้ทราบเพราะเราคุยกันตั้งแต่เที่ยงจนถึงค่ำ หลังจากนั้นได้คุยกับทนาย และวันสุดท้ายที่ได้คุยเขาก็บอกว่าเขาคงไม่มีปัญญาแม้แต่จะจ้างทนาย คือเขาใช้ทนายหลายคนมาก เขาต้องหาทนายที่คิดว่าประณีประนอมค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าที่จะเอาลูกส่งโรงเรียนนานาชาติก็คงจะไม่มีปัญญา มีเรื่องของทนายเขาก็บอกว่าเป็นไปได้ไหมที่จะใช้ทนายของพี่ไปช่วยเขา พี่ก็ให้ไปช่วยดูแลเขา ด้วยความที่ทนายเป็นผู้หญิงจะได้ช่วยให้กำลังใจเขาด้วย
ทนายเล่าว่าพอเขาเห็นลูกของซาร่ามา คือสามีเขาก็โดนคดี Forex เหมือนกัน เขาก็ร้องไห้โฮเลยเพราะเขาคิดถึงลูกเขามาก เพราะทุกครั้งที่ทนายไปเขาก็จะถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะได้ออกมาเพราะเขาคิดถึงลูกมาก ดีเจแมนทนายพี่ไม่ได้ไปเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะไปหาใบเตย ซึ่งทนายต้องหาหลักฐานเขามีเงินจาก อภิรักษ์ มาทั้งหมด 9.9 แสน มี 3 ยอด ต้องมีเหตุผลว่าเงินนี้ต้องไม่ใช่เป็นการว่าจ้าง ไม่ใช่เป็นการฉ้อโกง เขาต้องแจงให้ได้ว่าเป็นเงินมาจากไหน ซึ่งใบเตยบอกว่ายอด 5.5 แสนมาจากการขายกระเป๋าแอร์เมสให้กับอภิรักษ์ที่ซื้อให้แฟน ซึ่งเขาก็รับมาอีกที เขาไม่ได้ร่ำรวยมีกระเป๋าเป็นร้อยๆ อย่างที่เป็นภาพที่ปรากฏ
ใบเตย สร้างภาพเยอะมากจนทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ชอบ ทำให้ประชาชนหมั่นไส้ในความร่ำรวยของเขา เขาก็บอกว่าขอโทษ เขารู้แต่ว่าเขาเป็นนักร้องลูกทุ่ง อยากจะอัปตัวเองให้ดูสูง เพื่อจะขายของให้ราคาดีๆ และถ้าจะขายของให้ได้กำไรเยอะๆ ก็ต้องขายของแพง ของที่เป็นแบรนด์เนม และการเป็นนักร้องลูกทุ่งจะขายของแบรนด์เนมก็ต้องทำตัวให้ดูหรู มันเป็นความคิดของเขา ซึ่งก็เรียกว่าสร้างภาพ
ดีเจแมนกับใบเตยเขาทะเลาะกันต่อหน้าพี่เลยนะคะ พี่ยังบอกใบเตยให้สงสารดีเจแมนบ้าง คือใบเตยเขาก็จะโทษดีเจแมนว่าไปพาอภิรักษ์เข้ามา แต่ดีเจแมนบอกกับพี่ว่า อภิรักษ์ มาหาเขาเอง เอาพระเอาสิ่งที่เขาชอบมาให้กับเขา เขาก็เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขาได้เพราะชอบอะไรที่เหมือนกัน กลายเป็นลูกค้าที่ดีด้วยการให้เช่าพระ แต่เขาก็ไม่เคยรู้ว่าอภิรักษ์ทำชั่วทำผิดกฎหมายมาก่อน”