ขอแสดงความยินดีกับ “น้องออก้า” ลูกพ่อ “เปิ้ล นาคร” และแม่ “จูน กษมา” ที่สามารถคว้าแชมป์เจ็ตสกีโลกมาครอง โดยพ่อเปิ้ล – แม่จูน และ น้องออก้า ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
ออก้า : “ดีใจครับ ในใจตอนแข่งก็คิดว่าจะต้องเอาแชมป์มาให้ได้ แต่ไม่รู้จะได้รึเปล่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ตอนขับก็คิดว่าเราทำให้เต็มที่ที่สุด ก่อนไปก็ซ้อมทุกวัน ไม่ค่อยได้พักเท่าไหร่ ซ้อม 6 วันต่ออาทิตย์”
เปิ้ล : “เอาตรงๆ เลยคือน้ำตาไหล คนเป็นพ่อเป็นแม่สิ่งที่เราคาดหวังไว้เราคาดหวังไว้ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเราก็เตรียมใจว่าคงจะไม่ได้ มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเขา เราไม่ทราบว่าเราจะไปถึงไหม คือเราซ้อมมาหนักเกิน 100% เรารู้ว่าการมาระดับโลกมันต้องซ้อมหนักขนาดไหน ซ้อมจนออก้าร้องไห้ไปไม่รู้กี่รอบ ทั้งร้องไห้ทั้งเข้าโรงพยาบาล ซ้อมหนักเกินกว่าเด็ก 10 ขวบจะได้รับ

พอไปถึงตรงนั้นแล้ว เราเองก็ยังไม่แน่ใจ นักกีฬาคนอื่นๆ เด็กๆ จากที่ 1 ทั่วโลก เขาซ้อมจะซ้อมหนักมามากกว่าเราไหม ก็ดูจากโมโตแรก พอเห็นโมโตแรกแล้ว โอ้โห มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะเด็กแต่ละคนมากันอย่างโหด บอกเลยว่าโหดมาก เราว่าออก้าซ้อมมาโหดแล้ว ออก้าเด็กไปเลย เด็กๆ เขาโหดกันมากๆ อันนี้ต้องยอมรับเลย ซึ่งออก้าก็สู้สุดตัว ตกน้ำแล้วก็ยังขึ้นมาสู้ต่ออีก มันเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้จริงๆ เราโชคดีที่ได้มีโอกาสผ่านประสบการณ์นี้มาได้”
จูน : “ไม่ต้องเลย พอตื่นปุ๊บเขาก็ร้องจะไปสนามแล้ว ไปถึงขาแตะอเมริกาถ้าไปซ้อมได้เลยไหม โอ้ย! ตายแล้ว ออก้า ถามว่ามันดีไหม มันดีที่เขาอินมากๆ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อลูกไป เรามีหน้าที่หาอาหารการกินประเคน จะกินอะไรบอก ต้องมีแรง ต้องนอนหลับ ไปอยู่โน่นเจ็ตแลคอีก”
เปิ้ล : “คิดว่าพ่อแม่ทุกคนเจอเหตุการณ์แบบนี้เสียน้ำตากันทุกคน มันเป็นสิ่งที่เราในครอบครัวทุ่มเทกันมาตลอดตั้งแต่ออก้าอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มแข่งตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เขามีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปชิงแชมป์โลก เราเองก็ยังคิดว่าเดี๋ยวพ่อจะพาออก้าไปแข่งชิงแชมป์โลกตอนอายุ 14-15 รอโตกว่านี้อีกหน่อย แต่เผอิญฟ้าลิขิต ทางสมาคมเจ็ตสกี และการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ส่งจดหมายมาว่าออก้าได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติในปีนี้ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ที่ 1 สละสิทธิ์ ก็เลยตกมาเป็นที่ 2 ของประเทศ คือ ออก้า เราไปเป็นรองเลย เป็นรองตั้งแต่รองแชมป์ประเทศไทย แล้วก็เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเจ็ตสกีไทย และเด็กที่สุดในการแข่งขันเจ็ตสกีโลก เราก็เห้ย!ลูกเราเด็กสุดเลย แต่ถามว่าไหวไหม เรามั่นใจว่าออก้า เขากินนมแพะมาตั้งแต่เด็ก(หัวเราะ) เขาแข็งแรงมาก ด้วยนิสัยเขาด้วย ออก้าเขาบอกว่าเขาอยากจะไปแข่งชิงแชมป์โลก ก็เลยต้องตั้งเป้า และทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้ไป จนเขามีวันนี้”
ออก้า : “อยากให้ฝรั่งมารู้จักเมืองไทยมากขึ้น แล้วก็มาเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆ ครับ วันนี้ออก้าทำสำเร็จแล้วนะครับ ขอบคุณทุกคนที่คอยส่งกำลังใจเชียร์ออก้ามาตลอดนะครับ เป้าหมายต่อไปของออก้า ก็จะรักษาแชมป์ไปให้เรื่อยๆ เลยครับ สัก 10 สมัย”
จูน : เอาปีหน้าก่อน”
เปิ้ล : “เด็กสมัยนี้เขาโหดกันจริงๆ นะ เขาสู้กันมาก สู้ยังพ่อแม่เลย พ่อแม่น่ากลัวกว่าลูกอีก โอ้ย…รู้อยู่ ทุกวงการถ้าเมื่อไหร่ที่พ่อแม่เริ่มจริงจัง โหย ทะเลาะกัน แต่เด็กๆ เขาไม่รู้เรื่องหรอก เขาเพื่อนๆ กัน”