กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาก เมื่อชื่อของ “โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” เข้าไปมีชื่อเป็นลูกข่ายในคดี “Forex 3D” ซึ่งโต๋ชี้แจงเรื่องนี้ ดังนี้
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เอ่อ…จริงๆ ก็อยู่ในคำที่ผมเขียนชี้แจงซึ่งโพสต์อยู่ในอินสตาแกรมของผมทุกอย่างแล้วนะครับ ผมเขียนทุกอย่างลงในนั้นหมดเลย และสำหรับเรื่องนี้คนแรกที่ผมโทษเลยก็คือตัวผมเอง เพราะผมไม่รู้ว่าผมคิดอะไร หรือว่าผมหลงเชื่อได้อย่างไร คนแรกที่ผมโทษเลยก็คือตัวผมเอง ฉะนั้นสิ่งที่ผมสูญเสียไปทั้งหมด ผมคิดกับตัวเองว่านี่คือบทเรียนราคาแพงที่ผมจ่ายไป เจ็บแล้วก็ต้องจำครับ”
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกับเรื่องนี้ มันเริ่มมาจากไหน ?
“มันเป็นการพูดคุยกันแนะนำกันในกลุ่มที่เล่นกีฬาด้วยกัน เหมือนที่ผมเขียนเลยครับ”
มีการยืนยันจากอีกฝ่ายว่าเขาไม่ได้ชวน ?
“ก็ตามที่ผมเขียนเลยครับ อย่างที่ผมบอกว่ามีการพูดคุยกันอยู่ คือผมไม่แน่ใจว่า เส้นระหว่างการบอกว่าชักชวนหรือการแนะนำคืออะไร แต่เราเรียนรู้จากการที่เราไปเล่นกีฬาด้วยกันและก็พูดถึงเรื่องนี้ด้วยกัน และก็มีการส่งเว็บมา ซึ่งเราเองก็เข้าไปดูเว็บและเห็นมันดูน่าเชื่อถือมาก ผมอ่ะ ผมไม่พูดเยอะ คือพูดตอนนี้มันอาจจะคิดว่าเชื่อได้อย่างไร แต่ถ้าคุณได้เห็นเว็บจริงๆ มันก็… มันก็ ผมพลาดเองที่ผมไปหลงเชื่อครับ”
ได้มีโอกาสคุยกับน้องเขาบ้างไหม ?
“(ส่ายหน้า) ไม่คุยครับ”
เราเลือกที่จะไม่คุยเลย ?
“คือ…อย่างที่ผมเขียนเลยครับ ผมอ่ะ ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันคือการลงทุน และผมก็คิดว่ามันคือราคาที่เราต้องจ่ายกับความโง่ของเราเอง และ ณ ตอนนั้นที่ผมไม่ทำอะไรเลยก็เพราะว่ามันคือความผิดของผมล้วนๆ ผมบอกตัวเองทุกวันว่าจะไม่ทำอย่างนี้แล้ว จะไม่มีการลงทุนหรือทำอะไรโดยที่เราไม่รู้”
คิดไหมว่าตอนนั้นเราจะกลายเป็นลูกทีมของใคร ?
“ไม่คิด ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร และผมก็รู้พร้อมทุกคนครับ”
การลงทุนของเรา เป็นการลงทุนครั้งเดียวหรือว่าค่อยๆ ลงไปเรื่อยๆ ?
“ตามที่ผมเขียนในอินสตาแกรมเลยครับ”
เหมือนว่าเราติดกับดักความโลภ ?
“สมัย 3-4 ปีก่อน การลงทุนมีหลายรูปแบบมาก สมัยนี้ก็มีเยอะกว่าเก่าอีก แต่ด้วยความที่สมัยนั้นเราไม่รู้ไงว่ามันคืออะไร นี่คือการลงทุนครั้งแรกของผมโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร นี่คือบทเรียนสำหรับผม และทำให้ผมตระหนักได้ว่าก่อนที่เราจะลงทุนเราต้องรู้ก่อนว่ามันคืออะไร”
หลังจากนี้เราจะทำอะไรต่อไป ?
“เรามีประสบการณ์แล้ว เราเจ็บ และเราก็จำ ต่อไปนี้จะทำอะไร จะลงทุนอะไร เราต้องศึกษา เราต้องรู้ เราต้องอธิบายได้ว่ามันคืออะไร”
เรื่องนี้ส่งผลต่อความไว้ใจกับคนในวงการไหม ?
“อย่างที่บอกครับว่า โทษตัวเอง ถ้าเราไม่เข้าไปดู เข้าไปเล่น หรือลองลงทุนโดยที่เราไม่รู้ มันคือตัวเราล้วนๆ ครับ”
ณ วันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน ?
“ผมไม่เคยได้อะไร อย่างที่ผมเขียนเลยครับ ผมไม่เคยได้รับเงินเพื่อจะไม่พูดอะไร ไม่เคย ตรงนี้ผมมั่นใจว่ามีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ และผมยินดีให้ตรวจสอบ ผมไม่เคยได้รับอะไรทั้งสิ้นครับ”
ตอนนี้เรามีความคิดเรื่องการดำเนินคดีหรือแจ้งความบ้างไหม ?
“กำลังปรึกษาผู้ใหญ่กับทนายอยู่ครับ ถ้ามีอะไรอัปเดตไว้ผมจะแจ้งให้ทราบ”
คำว่าอายของเราถูกตีความไปเยอะ ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ ?
“ตอนนั้นผมยังไม่รู้เลยครับว่ามันคืออะไร ผมเองก็ทราบพร้อมๆ ทุกคน และผมถามหน่อยว่าถ้าเกิดคุณเป็นผมและคุณโดนหลอก คุณอายไหมครับ คือผมก็อาย อย่างที่ผมบอกครับคนแรกที่ผมโทษ ผมโทษตัวเอง โทษที่ผมไปหลงเชื่อ มันเป็นที่เราล้วนๆ คำว่าอายในที่นี้ก็คือ ผมเขิน ที่ผมบอกว่าผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย และผมก็โดนเหมือนกัน”
มีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามาถึงเราบ้างไหม ?
“ยังไม่มีครับ อย่างที่ผมบอกเลยครับ ก็คือผมไม่ได้ชวนใครต่อ ดาวน์ไลน์ของผมคือ 0 ตามหลักฐานก็ชัดเจน และผมก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่างครับ”
ตามหลักฐานคือเราเป็นผู้เสียหาย ?
“ใช่ครับ ผมก็คือเหยื่อและผู้เสียหายคนหนึ่งครับ”
เรื่องนี้ส่งผลต่อความเครียดและสุขภาพเราไหม ?
“นิดหน่อยครับ”
แฟนๆ ก็ให้กำลังใจเราเยอะ ?
“ผมขอบคุณนะครับ ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามา เอ่อ…ผมผิดพลาดได้ ผมก็เสียค่าโง่ได้ ผมมายืนอยู่ตรงนี้ผมก็รู้สึกอย่างที่บอกครับ มันเขินที่จะบอก คือ…เราเสียค่าโง่ไปครับ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคนครับ”