ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่พระเอกกล้ามโต หุ่นฟิตปั๋งอย่าง “คริส เฮมส์เวิร์ธ” ยังเพิ่งค้นพบว่าตัวเองมียีนส์ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในอัตราที่สูงกว่าคนทั่วไป
“พวกเขาเอาเลือดผมไปทำการทดสอบบางอย่าง แผนที่เราวางเอาไว้ก็คือพวกเขาจะมาแจ้งผลการทดสอบกับผมต่อหน้ากล้อง แล้วเราก็จะคุยกันต่อว่าจะทำเรื่องนู้นเรื่องนั้นให้มันดีขึ้นอย่างไร” คริส เฮมส์เวิร์ธ ให้สัมภาษณ์นิตยสารวานิตี้ แฟร์ พร้อมเล่าว่า พอได้ยินข่าวเรื่องยีนส์โรคสมองเสื่อม เขาถึงกับไปไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับมา
“คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงความตาย พอจู่ ๆ คุณถูกบอกว่ามีดัชนีชี้วัดอันใหญ่ชี้มาว่ามันเป็นเส้นทางที่กำลังจะเกิดขึ้น ข้อเท็จจริงเลยถาโถมเข้ามาว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่จะต้องตาย” พระเอกวัย 39 ปีกล่าว
การค้นพบสุดช็อคนี้เกิดขึ้นระหว่างที่พระเอกเจ้าของบทบาท “ธอร์” กำลังถ่ายทำซีรีส์แนวสารคดีเรื่อง ลิมิตเลส (Limitless) ให้กับทางเนชันแนล จีโอกราฟิค แล้วพบว่าตัวเองมีโอกาสสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม เพราะเขามียีนส์ APOE4 หรือยีนส์ APOE ประเภท 4 อยู่สองชุด ซึ่งยีนส์ตัวนี้จะไปเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท (neurodegenerative disease) เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์คินสัน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคปลอกประสาทอักเสบ เป็นต้น


ทั้งนี้ ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเป็นผู้นำในการจัดทำขึ้นเมื่อปี 2022 พบว่า คนที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวยุโรปราว 25% จะมียีนส์ APOE4 อยู่หนึ่งชุด ซึ่งมันเพิ่มโอกาสกว่าสองเท่าในการพัฒนาไปเป็นโรคอัลไซเมอร์ แล้วก็มีคนอีก 2-3% (แบบเดียวกับคริส) ที่มียีนส์ดังกล่าวสองชุด เท่ากับว่าพวกเขามีความเสี่ยงในอัตราสูง 8-10 เท่าเลยทีเดียว
คริส เฮมส์เวิร์ธ เล่าต่อด้วยว่าตอนนี้ปู่ของเขาก็กำลังเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งตัวเขานั้นไม่ได้ไปเจอหน้าปู่มาสองสามปีแล้ว แต่จะมีคนในครอบครัวคอยรายงานสุขภาพของปู่ให้ฟังอยู่ตลอด
พระเอกธอร์บอกด้วยว่าคุณหมอที่ทำการตรวจเลือดให้เขาเป็นห่วงเรื่องที่จะเผยผลการทดสอบต่อหน้ากล้อง ขณะที่ทางทีมผู้สร้างเองก็เสนอให้มีการจัดทำรายการเก็บเอาไว้อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งไม่มีการพูดพาดพิงไปถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่เมื่อพอมาคิดดูแล้วเขาพบว่ามันอาจจะช่วยคนอื่นได้ คริสจึงตัดสินใจไฟเขียวให้เก็บฉากนี้เอาไว้
“ถ้ามันจะเป็นแรงจูงใจให้คนหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น และเอาไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตก็ถือว่าเยี่ยมแล้วครับ” คริส เฮมส์เวิร์ธ กล่าว พร้อมเสริมว่า ถึงแม้สิ่งที่ได้รับรู้จะทำให้ช็อค แต่เขามองว่ามันเป็นแรงกระตุ้นให้เขาใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่สุด แล้ววันหนึ่งเขาจะเอาเรื่องนี้ไปบอกลูก ๆ ด้วย เผื่อว่าพวกเขาจะอยากทดสอบตัวเองดูบ้างว่ามียีนส์เสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์เหมือนเขาไหม
“ใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่าและมีความรักให้กับชีวิตมากเท่าที่คุณจะทำได้ คุณไม่รู้หรอกว่าเวลาของคุณจะหมดลงเมื่อไร คุณไม่รู้ว่าอะไรจะรอเราอยู่ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น ใช้ชีวิตให้เต็มที่สุดๆ ไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีชีวิตยืนยาวขึ้นหรือเปล่า แต่คุณควรจะใช้ชีวิตให้ดีขึ้นเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย”