แม้จะเป็นข่าวมาพักใหญ่แล้วแต่ก็ไม่เคยออกมาเคลียร์ข่าวฉาวเลยสักครั้ง สำหรับนักแสดงสาว “ไอซ์ อภิษฎา” ล่าสุดอุ้มท้อง 8 เดือนออกงานและเปิดใจถึงเรื่องราวที่ถูกสาวปริศนาออกมาแฉ ว่าเธอและ “ไอซ์” ใช้สามีคนเดียวกัน แถมยังบอกว่าสามีมหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสคนนี้คบผู้หญิงไม่เลือกหน้า งานนี้ไอซ์เปิดใจว่า
“ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า เราอยู่ในยุคที่เราจะต้องใช้สติมากๆ ในการรับฟังข่าวหรือวิเคราะห์ ตอนนั้นในหัวมีอยู่ 2 อย่างว่า เราจะต้องออกมาแก้ข่าวไหม แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราออกมาแก้ข่าวเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเอง ทำไมเราต้องดิ้นรนกับอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องที่เราจำเป็นจะต้องออกมาพูด มันไม่จำเป็นทุกคนที่ถ้าไม่ออกมาพูดแปลว่าจริง แต่สำหรับเรา เรามองว่าถ้าออกมาพูดเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองอย่างหนึ่ง เราอย่าไปเดือดร้อนกับสิ่งที่มันไม่ใช่ เราต้องยืนหยัดหนักแน่นกับความจริงของเรา ถ้าเราออกมาพูดแล้วเขาเปลี่ยนแอคเคาท์เอาเรื่องอะไรมาพูดอีก ก็ต้องออกมาพูดทุกครั้งเหรอ ไม่อยากจำเป็นที่จะต้องให้ค่ากับอะไรที่อย่างนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกกี่รอบๆ ต้องดิ้นรนกับมัน ไอซ์เลยหนักแน่นและปล่อยผ่านแล้วมันก็ผ่านไป”

กระทบจิตใจไหม?
“จะบอกว่าเราโชคดีมากที่เรามีน้องอยู่ในท้อง และเราไม่อยากส่งอารมณ์อะไรที่ไม่ดีไปถึงน้องเลย คุณสามีเขาก็ขอบคุณเรา และประทับใจเราที่เราหนักแน่นพอ และเราก็รู้สึกว่าพอมันใช้คำว่าครอบครัว เราไม่จำเป็นที่จะต้องเอาพายุเข้าบ้าน”
แสดงว่าสามีรับรู้ตลอดว่าเราโดนอะไรมาบ้าง?
“ก็มีคนส่งให้เขาบ้าง แต่อะไรที่เป็นภาษาไทยมากเขาก็ไม่รู้เรื่อง แต่ไอซ์สร้างปัญหาเพิ่มให้กับครอบครัว และไอซ์ก็ไม่ส่งอารมณ์ที่มันไม่ดีไปถึงลูก คือไอซ์ว่ามันอยู่ในจังหวะที่เป็นบททดสอบใหญ่เหมือนกัน เพราะสมมติเราสติแตก มันก็สามารถเป็นบ้าเป็นบอได้เหมือนกันนะ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเรามองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ใจร้ายเหมือนกันนะ ในการที่รู้ว่าผู้หญิงที่กำลังท้องและมาทำอะไรแบบนี้ แต่เราก็เข้าใจเจตนาว่าคนทำคงไม่ได้หวังดีเท่าไหร่ และเราก็จะไม่อนุญาตให้เขาเอาอารมณ์ที่ไม่ดีมาใส่เราได้ ช่วงนั้นก็โชคดีมากที่อยู่ต่างประเทศ เราก็ใช้ชีวิตของเราไป”
ก็ไม่มีใครบอกให้เรารับรู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?
“จริง โชคดีมาก เพราะไทม์โซนมันต่างกันมาก แต่ก็มีคนส่งมาให้เรารู้แหละว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นเราโชคดีที่เราปล่อย อะไรที่มันไม่ใช่ก็อย่าเอาเข้ามา อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำร้ายครอบครัว อย่าทำร้ายลูกสาว”
ก็คือปล่อย เขาอยากทำอะไรก็ทำ?
“ใช่ รู้สึกว่าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเราก็ถามตัวเองแล้วว่าเราไม่ใช่คนที่ใครก็ได้ วันนี้ที่เราอายุมาถึงขนาดนี้ และเรามีประสบการณ์ชีวิตกับความรัก และรู้ว่าเราเลือกอะไร ในวันที่เราจะมีน้อง พูดเลยว่านี่คือความตั้งใจมากๆ เราไม่ใช่เด็กๆ ที่จะมาใช้คำว่าพลาดหรืออะไร มันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจ แต่อาจจะไม่ใช่ตามสเต็ปทุกคนที่จะต้องจัดงานแต่งงานนะ แต่เรื่องนั้นสำหรับเรา คือเราเองที่ไม่อยาก คือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้หมายความว่าอะไรเลยในงานแต่งงาน และเราก็เคยเฉียดๆ ตรงนั้นมาแล้ว และเราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้แปลว่าอะไร มันไม่ได้มีความหมายอะไรที่จะทำให้ชีวิตรักอันนี้มันยืนหยัด มั่นคงเพราะมีภาพงานแต่งงานๆ นึง แต่เราว่าสิ่งสำคัญคือต่อจากนี้เราจะใช้ความเป็นครอบครัวของเรายังไงให้มันมีความสุขอยู่ยาวที่สุด”

เขาเองอยากมีงานแต่งไหม?
“เอาจริงๆ เขาอยากมี แต่จากที่เขาอยากจัดที่ต่างประเทศอยู่แล้ว และเราก็บอกว่าตั๋วคราวที่แล้วยังมีอยู่เลย ไม่กล้าเชิญใครไปต่างประเทศ (หัวเราะ) เขาก็พูดว่างั้นจัดงานเล็กๆ 30 คน เราก็เลือกไม่ถูก กลุ่มเดียวก็ไม่ได้แล้ว และเราก็เกรงใจเพื่อนว่าจะต้องบินไปต่างประเทศ ช่วงนั้นก็ยังโควิดอยู่ ก็คิดว่าถ้าเรามานั่งรออะไรที่มันตามสเต็ป เราคิดว่าตอนนี้ด้วยอายุเราสิ่งสำคัญสุดคือการมีน้อง มันรู้สึกว่าถึงเวลาที่ใช่แล้ว และอยากมีขั้นต่ำ 2 คน อายุก็จะมากขึ้นแล้ว และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะติดหรือไม่ติด เราก็รู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่เสี่ยง เราก็รู้แหละ แต่มันถึงเวลาแล้วที่เราพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะเรามีครอบครัว”
ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ ความเป็นคุณแม่มือใหม่ในฐานะที่เราฝ่าดราม่ามาได้?
“ไม่กล้าให้เต็มร้อยเลย (หัวเราะ) คือ ณ ตอนนั้นให้ตัวเองว่าเราต้องไปบอกแฟนด้วยซ้ำว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกนี้แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรความสุขฉัน เรารู้อะไรเป็นอะไรก่อนที่ฉันจะเลือกเธอฉันรู้ ทุกอย่างแล้วเขาก็รู้จักเรา ทุกคนมีอดีตแฃ้วเราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันเป็นเรื่องที่เราเลือกฝรั่งเพราะอะไรรู้ไหม เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องอดีตของเรา เราก็จะไม่ยุ่ง เราอยู่ปัจจุบันและเรารู้สึกว่าจากที่เราปฏิบัติเราดูกันที่ปัจจุบันดีกว่า (ให้กี่เปอร์เซ็นต์?) ให้ตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ)”
เรื่องที่แฟนเราโดนขุดว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของฝรั่งเศส?
“โอ๊ย อันดับ 5 ประเทศ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เขามาจากครอบครัวมีเงินไหม เขาก็มาจากครอบครัวมีเงิน แล้วธุรกิจจากครอบครัวก็คือธุรกิจจะ 100 ปีแล้ว บางทีที่มาที่ไปที่เขาเขียนพยามโจมตีว่าทำธุรกิจไม่ดีหรือมาจากอะไร คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะ เขาบอกว่าเขาอยากปกป้องตัวเองแต่ไอซ์ก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไป คนที่เขาไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าเขาไปหานามสกุลดูก็จะรู้ว่ามันมีบริษัทอะไรที่เป็นเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวมา 100 ปีอยู่แล้ว”
ถูกจับตามองตลอดเวลาเลย?
“ไอซ์ไม่โทษเขา ไอซ์รู้สึกว่ามันเป็นดวงของไอซ์อีกแล้วที่เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ครั้งที่แล้วก็สงสารทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเราเหมือนกันแล้วเขาต้องเจออะไรแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอแต่คนอื่นที่เขาไม่ได้อยู่จุดเรา เขาไม่มีประสบการณ์แบบเรามา 10 ปีๆ มันก็ลำบากสำหรับเขาเหมือนนะ”