ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทผู้มีรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Monster เป็นเครื่องรับประกันความสามารถ แต่พอวัยล่วงเลยมาจนอายุเข้าหลัก 4 ‘ชาร์ลีซ เธอรอน’ ก็ไม่ขอทำในสิ่งที่จะกลายเป็นการทำร้ายร่างกายของเธอต่อไปอีกด้วยการปฏิเสธบทที่เธอต้องเพิ่มน้ำหนักตัวมากถึง 40 ปอนด์ หรือประมาณ 18 กิโลกรัม
“ฉันไม่มีทางที่จะเพิ่มน้ำหนักตัวเพื่อเล่นหนังแล้วพูดออกมาง่าย ๆ ว่า…ค่ะ ฉันเพิ่มน้ำหนักไป 40 ปอนด์อีกต่อไป ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วเพราะคุณรับมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” นักแสดงหญิงจากภาพยนตร์เรื่อง Fast X กล่าวในการให้สัมภาษณ์นิตยสารอัลเลอร์ (Allure) เมื่อไม่นานมานี้
“ตอนที่อายุ 27 ฉันเคยทำใน Monster มาแล้ว ฉันลดน้ำหนักลงไป 30 ปอนด์ (ประมาณ 13.6 กิโลกรัม) ฉันอดอาหารทั้งสามมื้อ แต่แล้วฉันก็กลับมามีน้ำหนักปกติได้ง่าย ๆ ”


ทั้งนี้ Monster เป็นหนังแนวดรามาอาชญากรรมที่ออกฉายเมื่อปี 2003 ชาลีซเล่นหนังเรื่องนี้ประกบคู่กับ คริสตินา ริชชี่ การทุ่มเทลดน้ำหนักเพื่อเข้าถึงบทบาททำให้เธอคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาร์ลีซได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเธอขุนตัวเองให้มีน้ำหนักตัวกลับมาปกติได้ง่ายดายราวกับดีดนิ้ว
แต่พอมาในปี 2023 เธอบอกว่าด้วยวัยที่มากขึ้น การกำจัดน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเพราะต้องรับบทในหนังนั้นมันเกือบจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว โดยเธอมีประสบการณ์ตรงมาแล้วหลังจากที่เพิ่มน้ำหนักตัวไป 50 ปอนด์ (ประมาณ 22.6 กิโลกรัม) เพื่อเล่นหนังดรามาเรื่อง Tully ในปี 2018
“ฉันทำมันตอนอายุ 43 เพื่อ Tully แล้วฉันก็จำได้ถึงช่วงเวลาหนึ่งปีที่พยายามจะลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา ฉันโทรหาหมอแล้วบอกว่า…ฉันคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้…ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า…คุณอายุ 40 กว่าแล้วนะ ใจเย็น ๆ ระบบเผาผลาญของคุณไม่ได้เป็นแบบที่เคยเป็นมาอีกต่อไปแล้ว…ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากได้ยินหรอกนะ”
ชาร์ลีซเล่นเป็นคุณแม่ลูกสามผู้เหนื่อยอ่อนในหนังเรื่อง Tully ที่เธอทั้งเล่นและเป็นโปรดิวเซอร์เองร่วมกับผู้กำกับ เจสัน รีทแมน ย้อนกลับไปในปี 2018 เธอเคยเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นโรคซึมเศร้าระหว่างที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าถึงบทบาทนี้ด้วย
“ฉันเพิ่มน้ำหนักตัวไป 50 ปอนด์เพื่อหนังเรื่องนี้ ฉันอยากรู้สึกแบบเดียวกับผู้หญิงคนนี้ ฉันคิดเอาว่าสิ่งนี้ (การเพิ่มน้ำหนักตัว) เป็นวิธีที่จะทำให้ฉันเข้าใกล้เธอ และเข้าใจวิธีคิดของเธอได้ แล้วมันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจมาก ฉันถูกตบหน้าเข้าอย่างจังด้วยโรคซึมเศร้า มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ฉันกินอาหารผ่านกระบวนการมากขนาดนั้น แล้วฉันก็กินน้ำตาลมากด้วย มันไม่สนุกเลยกับการเล่นหนังเรื่องนี้” ชาร์ลีซให้สัมภาษณ์สำนักข่าว อีที เอาไว้ก่อนหน้านี้
นักแสดงคนดังยังเสริมอีกว่าช่วง 3 สัปดาห์แรกของการเพิ่มน้ำหนักมันก็สนุกดีอยู่หรอก มันเหมือนกับเด็กที่ได้เข้าไปในร้านขายลูกอม มันสนุกที่ได้ไปกินอาหารเช้าที่ร้านฟาสต์ฟู้ดแล้วสั่งนมปั่น 2 แก้ว แต่พอหลังจากนั้นมันก็ไม่สนุกอีกต่อไป เพราะมันกลายมาเป็นงานที่จำเป็นต้องทำ
ชาร์ลีซบอกว่าเธอถึงกับต้องตั้งนาฬิกาปลุกกลางดึกเพื่อตื่นขึ้นมากินมักกะโรนีอบชีสตอนตี 2 โดยเธอเอามันใส่ถ้วยวางไว้ข้างเตียงเลยเพื่อที่จะตื่นขึ้นมากวาดลงคอไปให้จบ ๆ เพื่อคงน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมาเอาไว้ไม่ให้ลดลงก่อนจะถ่ายหนังจบ