เป็นนางเอกที่เจอวิกฤตชีวิตหนักมาก สำหรับ “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ” ที่ล่าสุดออกรายการ “แฉ” พร้อมเปิดใจถึงมรสุมชีวิตแสนเลวร้ายของตัวเองในช่วงที่ผ่านมาที่ต้องเจอกับทั้งเรื่องข่าวครอบครองและสั่งซื้อไซยาไนด์ โดนกล่าวหาเป็นฆาตกรวางยาอดีตผู้จัดการ รวมถึงเรื่องราวในอดีต กำลังเป็นนางเอกร้อยล้านแต่กลับเจออุบัติเหตุ จนหน้าพัง ต้องซ่อมหน้าซ่อมสภาพจิตใจเป็นเวลาถึง 2 ปี แถมยังโดนแฟนทิ้งทำหัวจิตหัวใจหมดเรี่ยวแรงบอบช้ำสุดระทน
“เรียกว่าซวยค่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้ชงไหม” หลังเธอถูกถามประเด็นสั่งซ์้อสารพิษอันตรายจนต้องไปเคลียร์ข้อสงสัยกับตำรวจ ตอนข่าวออกปุ๊บ ก็คิดว่าหนูแน่ๆ แหละ เพราะเพิ่งสั่งซื้อ ก็คิดว่าไม่น่าเป็นใคร นางเอกคนอื่นอาจเสียวๆ อยู่ แต่หนูรู้เลยว่าเป็นหนู ก็รีบบอกคุณแม่เลยแล้วไปสถานีตำรวจ แสดงตัวก่อนเลย
หมู่บ้านที่อยู่ ดาราอยู่เยอะมาก อยู่เป็นหมู่บ้านดารา สักพักดาราย้ายออกหมดเลย เพราะมีสัตว์เลื้อยคลานไปอยู่ในบ้าน บ้านตรงกลางๆ จะเจอแค่งู แต่บ้านของไอซ์อยู่ติดกับคลองเป็นป่า”


เรียกช่างมา ค่าสร้างประมาณ 5 ล้าน เพื่อซ่อมใหม่ เพราะแตกช่วงหลังบ้าน พื้น และกำแพงข้างๆ พอทรุดก็ไปทั้งโครงสร้าง และเราต้องออกเองหมดเลย เพราะหนูมีส่วนที่ต่อเติมด้วย แล้วหมดประกัน ทำให้ทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราเจอตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาอยู่ ซึ่งเราซื้อแล้ว ทำอะไรไม่ได้ นอกจากย้ายอย่างเดียว ก็ต้องทนๆ อยู่ ทุกวันนี้พยายามเอาน้องหมา 4-5 ตัวเล็กๆ เอาเข้าบ้านหมดเลย”
นอกจากนี้ไอซ์ยังได้เล่าเรื่องราวในอดีตจากนางเอกร้อยล้านแต่ดันเกิดอุบัติเหตุพลิกชีวิตครั้งใหญ่ โดยเรื่องเกิดจากที่เธอหลับใน แล้วขับรถไปประสบอุบัติเหตุ จนมีแผลอยู่เต็มใบหน้า กระดูกซี่โครงทิ่มจนปวด หน้าเย็บ 300-400 เข็ม เย็บ 3 ชั้น เห็นกระดูกโหนกแก้มหนู
“ตอนนั้นหมอเดินมาแจ้งต้องมาทำนะ ถ้าไม่ได้ต้องเอาเนื้อจากตรงนี้มาแปะหน้า แถมตอนชนประกันรถยนต์ก็หมดอายุ รถจำต้องขายซากทิ้งนอนรักษาตัวที่รพ.จริงๆ 2 ปี เงินที่ทำมาทั้งหมดไม่เหลือเลย ต้องใช้หมอศัลย์ หมอตา หมอสมองด้วย เงินที่เก็บมาหมดเลย ตอนนั้นผ่าตัดทีละ 5 หมอ หมอกระดูก หมอตา หมอสมอง หมอศัลยกรรมพลาสติก หมอปอด พักงาน 2 ปีแม้แต่เดินผ่านกระจก เหมือนมีนิ้วแปะอยู่ตรงหน้าเพราะเป็นคีรอยด์จะเหมือนตะขาบเกาะอยู่ตรงหน้า ตรงคิ้วตรงตา เวลาไปไหนก็เอาผมบังหน้าไว้ มันเป็นรอยแล้วอาย หน้าเราไม่เคยมีรอยขนาดนี้ แล้วคิดว่าเราคงกลับมาทำงานแบบนี้ไม่ได้แล้ว เพราะหน้าก็คงไม่เหมือนเดิม ดวงจะซวย ไปฉีดโบท็อกซ์ปากยังเบี้ยว (หัวเราะ) จริงๆ ไม่ได้อยากทำ เพราะเจ็บ จมูกทำสองรอบ ตอนเกิดอุบัติเหตุไม่มีเนื้อแล้ว มีกระดูกโผล่ ด้านขวาทำหมดเลย
ตอนนั้นสภาพจิตใจแย่ แฟนก็ทิ้ง ตอนรักษาตัวคนที่อยู่ข้างเราคือคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนที่เรารับ สำคัญหมด ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ขับรถอีกเลย เพราะกลัว คุณพ่อคุณแม่ก็ห้ามไม่ขับอีกเลย”