สร้างห่างจากภาคแรกเป็นเวลานานถึง 13 ปี ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า ภาพยนตร์ Avatar 2 นั้นมีความแตกต่างจากภาคแรกอย่างไร
สำหรับเรื่องนี้ คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นผู้กำกับและผู้สร้างอย่าง “เจมส์ คาเมรอน” ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวของซีเอ็นเอ็นเอาไว้ว่า Avatar: The Way of Water นั้นเป็นหนังที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ “ซึ้งกว่า” ภาคแรกนั่นเอง
“ผมคิดว่ามันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมาก ผมคิดว่ามากกว่าภาคแรก มันโฟกัสไปที่ตัวละครต่างๆ แล้วก็ความสัมพันธ์ของพวกเขามากกว่าภาคแรก แต่ว่ามันก็ให้ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยนะครับ” เจมส์ คาเมรอน กล่าว

Avatar: The Way of Water ที่มีกำหนดเข้าฉายในเดือนธันวาคม ปี 2565 นี้ เป็นภาคต่อของ Avatar ที่ออกฉายเมื่อปี 2552 และได้สร้างปรากฎการณ์เอาไว้หลายอย่างให้กับวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้ตำแหน่ง “ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล” มาครอง
โดยในปีที่ออกฉาย Avatar ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และก็ปิดการฉายไปได้ด้วยรายได้รวม 2,749 ล้านดอลลาร์ ไม่นับรวมเรื่องที่กวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ ไปแล้วมากมาย
แต่สำหรับภาค 2 ที่อีกไม่นานเราจะได้รับชมกันแล้วนั้น เจมส์ คาเมรอน ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดให้ทราบกันมากนัก นอกไปจากเรื่องที่ว่าจะพูดถึงการใช้ชีวิตอยู่ในมหาสมุทร โดยแรงบันดาลใจของมันก็มาจากการที่เจมส์นั้นหลงใหลชีวิตในท้องทะเลมากนั่นเอง
“ผมรักมหาสมุทร ผมหลงใหลมันมาก่อนที่ผมจะได้เห็นมหาสมุทรของจริงด้วยซ้ำ ผมเรียนดำน้ำในชนบทของแคนาดา” ผู้กำกับคนดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้เอง เหล่านักแสดงใน “Avatar: The Way of Water” จึงต้องปรับตัวกันอย่างมาก และเข้ารับการฝึกฝนเพื่อให้สามารถแสดงใต้น้ำได้ ซึ่งเจมส์ คาเมรอน บอกว่าหลังจากเข้ารับการฝึกแล้ว นักแสดงอย่าง เคท วินสเลต, ซิเกอร์นีย์ วีเวอร์ นั้นสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นาน 6-7 นาที กันเลยทีเดียว
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Avatar ภาค 2 นั้น เจมส์ คาเมรอน บอกเอาไว้ว่าคุณจะไม่มีทางคาดเดามันได้เลย โดยสิ่งที่เขาจะบอกได้นั้นมีเพียง ตัวเอกของภาคแรกอย่าง เจค ซัลลี อดีตนาวิกโยธิน (นำแสดงโดย แซม เวิร์ธติงตัน) และ เนทีรี่ หญิงสาวชาวนาวี (นำแสดงโดย โซ ซัลดานา) จะกลับมาสู้เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวพวกเขา