กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตาสำหรับกระแสข่าวของ “อู๋อี้ฝาน” หรือ “คริส อู๋” วัย 31 ปี อดีตไอดอลดังชาวแคนาดาเชื้อสายจีน หลังโดนกล่าวหาว่าข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ศาลแขวงเฉาหยาง กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้ตัดสินจำคุก คริส อู๋ เป็นเวลาถึง 13 ปี ตามความผิดข่มขืนกระทำชำเราและมั่วสุมทางเพศ นอกจากนี้ กำหนดว่าเมื่อรับโทษครบแล้วให้เนรเทศออกประเทศ
ศาลแขวงเฉาหยางอ่านคำสอบสวนคดีนี้ว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2563 นักร้องหนุ่มข่มขืนหญิงสาวไปทั้งหมด 3 คนที่บ้านพักของตัวเอง ขณะที่ฝ่ายหญิงไม่มีโอกาสรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากถูกมอมเหล้า นอกจากนี้ยังพบว่า เดือนพฤศจิกายน 2561 อู๋อี้ฝานและบุคคลอื่นได้มีการรวมกลุ่มเพื่อกระทำร่วมประเวณีกับผู้หญิงอีก 2 คน ขณะถูกมอมเหล้ายาที่บ้านพักของไอดอลคนดัง ศาลยังระบุด้วยว่า คริส อู๋ จะต้องถูกเนรเทศ โดยทนายความได้โต้แย้งว่า โดยทั่วไปแล้วการเนรเทศจะเกิดขึ้นหลังจากจำเลยรับโทษไปแล้วเท่านั้น


คริส อู๋ สร้างชื่อในวงการบันเทิงจากการเป็นสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลี EXO ก่อนแยกตัวออกจากวง มาสร้างผลงานเดี่ยวในปี 2557 มีผลงานมากมายทั้งงานเพลงและการแสดง จนกระทั่งตกเป็นผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศสั่นสะเทือนวงการบันเทิงจีน หลังถูกตำรวจบุกจับกุมที่บ้านพัก ช่วงกลางดึกวันเสาร์ที่ 31 ก.ค.2564 คดีนี้เป็นที่สนใจของคนในประเทศและนอกประเทศอย่างมาก เมื่อหญิงสาวชื่อ ตู้ เหม่ยจู เน็ตไอดอล กล้าเปิดตัวและเผยเรื่องราวเป็นกระแส #MeToo ในจีนว่าถูกไอดอลหนุ่มล่อลวงและล่วงละเมิดทางเพศเธอรวมถึงหญิงสาวคนอื่นๆ ซึ่งบางคนมีเพศสัมพันธ์กับเขาขณะอายุต่ำกว่า 18 ปี
โดย เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ได้รายงานผลการสอบสวนคดีนี้ ว่า คริส อู๋ ได้เรียกให้ตู้ เหม่ยจู ไปที่บ้านพักวันที่ 5 ธ.ค.2563 อ้างว่าให้มาดูตัวเพื่อถ่ายมิวสิควิดีโอ ซึ่งในวันนั้น มีคนกว่า 10 คนในบ้านกำลังเล่นเกมและดื่มกันอย่างสนุกสนาน โดยทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์ในคืนดังกล่าว และต่อมา วันที่ 8 ธ.ค. นักร้องหนุ่มโอนเงินให้หญิงสาว 32,000 หยวน หรือประมาณ 160,000 บาทเป็นค่าซื้อของออนไลน์ จากนั้นทั้ง 2 คนยังติดต่อกันอยู่ผ่านทางแอปพลิเคชัน WeChat จนถึงเดือน เม.ย. 2564 ไอดอลหนุ่ม ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 ว่าเคยพบหญิงสาวเพียงครั้งเดียวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2563 และไม่ได้บังคับให้ดื่มเหล้าและไม่ได้ยึดโทรศัพท์ใคร พร้อมทั้งกล้ารับรองทางกฎหมายว่าคำพูดทั้งหมดเป็นความจริง


การอ่านคำพิพากษาคดีของศาลแขวงในกรุงปักกิ่งครั้งนี้ แคนาดาส่งทูตมาร่วมรับฟังด้วย โดยทางสถานทูตแคนาดายังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
จากคำพิพากษาของคดีที่เกิดขึ้น นายอู๋ ฟาเทียน นักกฎหมายในกรุงปักกิ่งกล่าวว่าแม้พระเอกอู๋ถือสัญชาติแคนาดาตามหลักกฎหมาย แต่กฎหมายจีนบังคับใช้กับใครก็ตามที่กระทำผิดอาญาในประเทศ
ในขณะที่คณะกรรมาธิการกลางด้านการเมืองและกฎหมาย พรรคคอมมิวนิสต์จีน แสดงความเห็นในเว่ยป๋อว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจีนในแผ่นดินจีน กฎหมายจีนไม่ผิดและไม่เห็นแก่พรรคพวกใด โดยยึดความจริงเป็นพื้นฐาน
หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี สื่อทางการจีน ลงเผยแพร่บทความว่า คดีที่เกิดขึ้นในแผ่นดินจีน จะไม่มีข้อยกเว้นให้ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงก็ไม่มีความคุ้มกันใด ๆ ผู้ที่กระทำผิดต้องถูกลงโทษ และจงจำไว้ว่ายิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งต้องมีวินัยตนเองยิ่งเป็นคนดังก็ยิ่งต้องเคารพกฎหมาย
หนังสือพิมพ์ลีกัล เดลี เขียนว่า คดีนี้เป็นบทเรียนสอนให้สังคมรู้ว่าทุกคนเท่าเทียมกันทางกฎหมาย
ส่วนคดีเลี่ยงภาษีนั้น ศาลภาษีอากรกลาง มีคำพิพากษาวันเดียวกัน วันที่ 25 พ.ย. สั่งปรับอู๋ เป็นเงิน 600 ล้านหยวน หรือราว 3,000 ล้านบาท ฐานเลี่ยงภาษี โดยการตรวสอบของสรรพากร (สำนักงานภาษี) กรุงปักกิ่ง โดยระบุว่าเป็นการเลี่ยงภาษีตั้งแต่ปี 2562 และ 2563 ซึ่งแม้ อู๋ อี้ฝาน จะถือว่าเป็นพลเมืองของประเทศแคนาดา แต่อาศัยอยู่ในจีนมากกว่า 183 วัน ในปีดังกล่าว ดังนั้น ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงมีหน้าที่ชำระภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรายได้ที่ได้รับทั้งในและนอกประเทศจีน โดยสรรพากรปักกิ่ง พบว่า ในช่วงปี 2562 และ 2563 อู๋ อี้ฝาน ใช้ธุรกิจที่สมมติขึ้นเพื่อสำแดงเท็จเกี่ยวกับรายได้ทั่วโลก เป็นการปกปิดรายได้ที่แท้จริง เพื่อเลี่ยงภาษี 95 ล้านหยวน และภาษีอื่น ๆ ที่ชำระต่ำกว่าจำนวน 84 ล้านหยวน ตามกฎหมายที่ทางจีนพิจารณาในเรื่องของการเลี่ยงภาษี การปกปิดรายได้ รวมการชำระภาษีล่าช้าย้อนหลัง ก็เลยออกมาเป็นค่าปรับ 600 ล้านหยวน