หลังจากเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จล่าสุด “เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร” เข้าพิธีแต่งงานกับ “แจ็คกี้ แพรวไพลิน บูชานันท์” เข้าพิธีมงคลสมรส ที่คริสตจักรที่สอง สามย่าน กรุงเทพมหานคร จัดพิธีการแบบคริสเตียน เจ้าบ่าวเจ้าสาวเปลี่ยน3ชุด ในพิธีการวันนี้ของห้องเสื้อดิษฐวรรษ มูลาจซ์, มาสเตอร์พีชและOlivia Dress Studio ส่วนชุดพรีเวดดิ้งเป็นของห้องเสื้อดิษฐวรรษ มูลาจซ์ สุดหรูหรา
โดยทั้งคู่ได้เปิดใจว่า
เต๊ะ : “ขอบคุณพระเจ้านะครับที่ทำให้ผมกับแจ็คกี้ได้เดินเข้าสู่ความเชื่อในธรรมเนียมปฏิบัติของคริสเตียน ก็คือแต่งงานต่อหน้าพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้านะครับ ก็จะเห็นว่าด้านหลังก็จะเป็นกางเขน เราก็จะตกแต่งแบบง่ายๆ เป็นอะไรที่เราไม่ได้ให้สิ่งเหล่านี้มีความสวยงามมากกว่าความรักของพระเจ้า ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมที่ตื่นเต้น ผมว่าแจ็คกี้ก็ตื่นเต้นเช่นกัน”
แจ็คกี้ : “เมื่อคืนก็หลับอยู่ค่ะ แต่ก็ตื่นเต้นอยู่ค่ะ เรียกได้เลยว่าวันนี้ตื่นเต้น เพราะงานมันดูยิ่งใหญ่อลังการมากเลยสำหรับเรา และแขกที่มาร่วมงานด้วยค่ะ และในพิธีก็จะต้องมีพูดด้วย เราก็แอบตื่นเต้นนิดนึด กลัวจำบทไม่ได้ (หัวเราะ)”
เต๊ะ : “ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาพิเศษนะครับที่พระเจ้าได้อวยพรให้ผมได้ใช้ชีวิตคู่กับคนที่พระเจ้าจัดเตรียมให้กับชีวิตของผม คำว่าแรงกดดันถามว่ามีไหม ก็สารภาพตรงๆ ว่ามันก็มีนะ เพราะการมีชีวิตคู่มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมเชื่อว่าพระเจ้าจะนำผมผ่านวิกฤตของชีวิตคู่ ทุกคนต้องมีวิกฤตอยู่แล้ว แต่มันจะผ่านไปได้โดยความรักของพระเจ้า ผมเองก็จะพยายามที่จะปรับปรุงแก้ไขต่อสู้อยู่ อันไหนที่มันยังไม่ดีก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้น อยากจะเป็นสามีที่ดี เป็นคุณพ่อที่ดีในอนาคตด้วยครับ”
แจ็คกี้ : “จริงๆ ก็ต้องขอบคุณพระเจ้าก่อนเลยที่ส่งผู้ชายคนนี้มาให้เรา ก็รู้สึกว่าพระเจ้ารักเราจริงๆ ที่ส่งคนที่เขารักเราขนาดนี้มาให้เรา และแจ็คกี้ก็มีโอกาสที่ได้แสดงความรักกับเขาด้วย ได้ดูแลเขาในฐานะภรรยา ซึ่งมันก็ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นมากกว่าการเป็นแฟนกันอยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องเปลี่ยนสถานะเป็นแม่ของลูกด้วย มีอะไรที่เราต้องเตรียมตัวหลายอย่างค่ะ แต่เชื่อว่ามีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางความรักของเรา แจ็คกี้เชื่อว่าทุกปัญหาพวกเราสามารถผ่านไปด้วยกันได้ค่ะ”
วางแผนฮันนีมูนไว้ที่ไหน
เต๊ะ : “จริงๆ เราก็มีแพลน และกระชั้นชิดเหมือนกัน วันจันทร์นี้เราจะไปเที่ยวสั้นๆ ก่อนในประเทศไทย คือไปพักผ่อนที่ภูเก็ต แต่ภูเก็ตน้ำท่วม (หัวเราะ) ก็คิดว่าเราคงไปดูบรรยากาศทะเล และดูน้ำจืดที่มันหนุนขึ้นมาด้วย (หัวเราะ) แต่ผมคิดว่าเราแค่อยากจะใช้เวลาสั้นๆ คืองานแต่งนี้เตรียมงานกันหนักมาก อย่างชุดนี่มาจากหัวหินเลยนะครับ มาตอนเช้า และช่วงตอนที่เราเดินประกอบพิธีก็จะมีอีกชุดนึงจากมาสเตอร์พีช และทีมพี่ๆ ที่จัดดอกไม้ มีสมาชิกคริสตจักร มีทีมงานหลายๆ คน ซึ่งเขามาด้วยหัวใจ เหนื่อยกว่าผมเยอะ แต่ผมหนีไปเที่ยว (หัวเราะ) ก็เป็นช่วงเวลาที่เราตื่นเต้นจริงๆ เพราะเราเตรียมงานมาตั้งแต่ช่วงเดือน 6-7 ก็ยอมรับว่าหัวใจมันเต้นตุ๊บๆ เลย (หัวเราะ) ผมก็เลยคิดว่าอาจจะพักก่อน วันจันทร์ก็จะไปพักผ่อนสัก 4-5 วันครับ”


ขอถามถึงเรื่องทายาทหน่อย
แจ็คกี้ : “แพลนเรื่องลูก แล้วแต่พระเจ้าอวยพรค่ะ“
เต๊ะ : “ผมน่ะอยากมี เพราะว่าวันนี้เด็กๆ ที่คริสตจักรเราเอาทุกคนมาเดินโปรยดอกไม้ อาจจะใช้เวลานานหน่อยนะครับในการโปรยดอกไม้ เพราะว่าเด็กเป็นสิบเลย (หัวเราะ) คือผมน่ะชอบเด็ก และผมก็อยากจะมีโอกาสที่จะเป็นคุณพ่อที่วิ่งเล่นกับเด็กในวัย 40 เข่าก็เริ่มส่งเสียงกร๊อบแกร๊บๆ บ้างแล้ว (หัวเราะ) ผมคิดว่าคงรอไม่นานครับ แต่ท้ายที่สุดอย่างที่แจ็คกี้บอกว่าแล้วแต่พระเจ้าจริงๆ อยากให้พระเจ้าเป็นผู้นำว่าจะมีช่วงไหนที่เหมาะสมที่สุดกับเราทั้งสองคนด้วยครับ”
แจ็คกี้ : “ก็อยากจะมีค่ะ เพราะคิดว่าเราฝากชีวิตกับผู้ชายคนนี้ได้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงว่ามีลูกแล้วจะต้องเจอความยากลำบาก”
เต๊ะ : “ไม่พึ่งวิทยาศาสตร์ ขอเป็นธรรมชาติครับ (ยิ้ม) ผมคิดว่าทีคริสเตียนเราชอบพูดกันก็คือเป็นตามพระประสงค์ของพระเจ้า ผมเชื่อว่าพระเจ้าจะเป็นผู้จัดเตรียม ถ้าพระเจ้าบอกว่ามาแฝดเลย ก็เป็นแฝด อาจจะ 2 3 4 เราก็ไม่รู้ หรือถ้าเป็นคนเดียวจะเป็นชายหรือหญิงก็แล้วแต่น้ำพระทัยของพระเจ้า หน้าที่ของเราคือดูแลของขวัญที่พระเจ้ามอบให้อย่างดีที่สุดแค่นั้นเองครับ”

แจ็คกี้ : “ถามว่าอยากมีกี่คน จริงๆ ก็คิดไว้ว่า 2 ค่ะ”
เต๊ะ : “แต่มีตรวจสุขภาพเบื้องต้นแล้วครับ ก็แข็งแรงดี แต่เรายังไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าการมีบุตรจะต้องช่วงไหนยังไง เพราะจริงๆ ที่เราคุยคือช่วงต้นปีหน้า ขอสัก 2 เดือนที่เราจะได้พัก จากนั้นก็อาจจะเข้ากระบวนการปรึกษาคุณหมอว่าร่างกายเราต้องเตรียมอะไรบ้าง ต้องกินวิตามินตัวไหนอะไรยังไง รู้ไหมครับว่าเจ้าสาวตั้งแต่มารู้จักกับผม น้ำหนักเขาขึ้นมา 10 กิโล (หัวเราะ) แต่นี่ลงมา 5 กิโลแล้วครับ ก็เชื่อเถอะครับ ผมเป็นสายบำรุงได้ (หัวเราะ) ก็คงจะเริ่มช่วงต้นปีหน้าครับ เพราะผมจะต้องมีเตรียมงานไปไต้หวันอีก
ผมเชื่อว่าคงเป็นทุกคู่ เมื่อเรามีคู่หรือมีน้องก็อยากจะใช้เวลาให้ใกล้ชิดที่สุด ผมไม่อยากให้เขาแบบว่าท้อง 1-2 เดือนแล้วผมก็ไปอยู่ที่อื่น มันก็จำเป็นต้องวางแผนนิดนึง แต่ว่างานมันถูกฟิกซ์ไว้แล้วว่าต้องไป ก็วางแผนกันอยู่ แต่ผมเชื่อว่าพระเจ้าจัดเตรียมได้ครับ จริงๆ งานวันมันมีหลายอย่างที่เออเร่อบ้างอะไรบ้าง แต่สุดท้ายพระเจ้าก็จับทุกอย่างมารวมกัน และมันก็เป็นความสมบูรณ์ในแบบของพระเจ้าครับ”