เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนักเมื่อคุณแม่คนสวย “ศรีริต้า เจนเซ่น” ถูกคนในโลกออนไลน์ ตั้งถามถึงประเด็นลูกชายว่า อยากให้ติดดิน จนหลายคนมองว่า “ริต้า” เองใช้ชีวิตหรูหรา ทั้งเสื้อผ้า และไลฟ์สไตล์ แล้วแบบนี้เอาอะไรมาติดดิน ล่าสุด “ศรีริต้า” และสามี “กรณ์ ณรงค์เดช” ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าว
“น้องกวิน (ลูกชาย) ออกงานเจอคนเยอะๆ แล้ว เขาดูเป็นยังไงบ้าง ?
ริต้า : “ปกติก็ได้เจอบ้างนะคะ แต่อาจจะไม่เยอะเท่ากับวันนี้ วันนี้เจอคนเยอะมากๆ เลย และเขาเองก็ดูงงๆ ลงจากรถมาก็แบบ อะไร เกิดอะไรขึ้น แต่ใจจริงริต้าอยากให้เขาได้เจอพี่ๆ นะคะ อยากให้เขาได้เจอกับทุกคน”
พูดถึงพัฒนาการของน้องกวินท์สักหน่อย ?
ริต้า : “พัฒนากาตอนนี้ก็คือจะสามารถเรียกชื่อพ่อแม่ได้แล้ว เรียกชื่อปู่ๆ เรียกชื่อหลายๆ คนในบ้านได้หมดแล้ว”
กรณ์ : “และก็จำชนิดของสัตว์ อย่างเช่น ปลาโลมา ปลาวาฬ เสือ สิงโต คือเขาจะรู้หมดแล้ว รวมถึงสามารถนับ หนึ่ง สอง สาม ได้แล้วด้วย”

น้องเริ่มโตขึ้นแล้วคุณพ่อคุณแม่เตรียมรับมือยังไงบ้าง ?
ริต้า : “สำหรับริต้ามันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เลยนะคะทุกโมเมนต์ และตัวริต้าก็ไม่เคยคิดเลยเหมือนกันว่าการเลี้ยงลูกมันจะเติมเต็มเราได้ขนาดนี้ มันมีความสุขมากๆ และยิ่งเราได้เห็นพัฒนาการเขาในทุกๆ วัน เราก็ยิ่งรู้สึกว้าวในทุกๆ โมเมนต์ของเขาเลย”
นอกจากนั้นก็ยังมีโปรเจกต์ กวินท์ ฟาวเดย์ชั่น ?
ริต้า : “กวินท์ ฟาวเดย์ชั่น นะคะ เราทำมา 1 ปีแล้ว ก็คือว่าเราเอาของใช้ของน้องทั้งหมด รวมถึงข้าวของอีกหลายอย่างที่เราไม่เคยใช้ หรือมีคนให้เรามา ด้วยความที่กวินท์เขาอาจจะมีคนเมตตาและส่งของมาให้เขาเยอะ เราก็เลยเลือกที่จะนำมาบอกต่อขายต่อ และเอาเงินของเราสมทบทุนเข้าไปด้วยอีกที เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับผู้ยากไร้ รวมถึงซื้ออุปกรณ์การเรียนต่างๆ ซึ่งโปรเจกต์นี้เราทำกันมาหลายครั้งมากๆ แล้ว และก็ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง”
แต่ครั้งล่าสุดเหมือนกวินท์จะได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมด้วยตัวเอง ?
ริต้า : “ใช่ค่ะ เป็นครั้งแรกที่น้องไปด้วยตัวเอง”
เป็นการเริ่มปลูกฝังเขาตั้งแต่เด็กๆ ?
กรณ์ : “ใช่ครับ ผมเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการได้เห็น และก็อยากให้เขารู้จักแชร์รู้จักแบ่งปัน ไม่อยากให้เขาเป็นคนหวงของด้วย รวมถึงอยากให้เขารู้ว่าทุกอย่างในชีวิตมันไม่ได้ได้มาง่ายๆ”

ก่อนหน้านี้เรื่องบทความที่ให้สัมภาษณ์ประเด็น เลี้ยงลูกติดดิน คนก็แซวกันเยอะ ?
ริต้า : “จริงๆ ริต้าก็พูดค่อนข้างยาวนะ พูดอะไรหลายอย่าง และริต้าอธิบายในแบบที่ไม่มีฟิลเตอร์อะไร ริต้าพูดจากใจ ซึ่งในความหมายของริต้า จริงๆ มันก็คือ Down to earth เราต้องมีสัมมาคาราวะ เราต้องถ่อมเนื้อถ่อมตัว เราต้องสวัสดีทุกคนไม่ว่าจะไปเจอใครก็ตามรู้จักหรือไม่รู้จัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ริต้าอยากปลูกฝังเขามากๆ และก็ไม่อยากปิดกั้นขีดจำกัดเขา อยากให้เขาได้ผจญภัยในโลกกว้าง แต่ก็มีคนเอาแค่คำๆ เดียวมา”
กรณ์ : “อย่างที่ริต้าบอกเลยครับ ติดดินเราหมายถึงว่า Down to earth แบบเจอทุกคนก็ต้องไปมาลาไหว้ คงไม่ได้หมายถึงไปเล่ยกับดินกินกับทรายขนาดนั้น และเราในฐานะพ่อแม่ เราก็เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก”
ริต้า : “แต่ริต้าก็เข้าใจนะคะในมุมมองคนอื่นที่มองเข้ามา อาจจะมองคำๆ นี้และก็รู้สึกว่า ตรงไหนของเธอ แต่ก็ขอบคุณละกันนะคะในทุกๆ คอมเมนต์ เพราะเราก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่พี่ๆ ยังนึกถึงริต้าอยู่”
แสดงว่าเราก็ทราบฟีดแบค ?
ริต้า : “บางทีเพื่อนๆ ก็ส่งมาให้ดูค่ะ ก็อย่างที่บอกขอบคุณที่นึกถึงเรา แต่โอเคเราอาจจะหมายถึงคำว่า Down to earth คือเราต้องรู้จักถ่อม ต้องเข้ากับทุกคนได้ อย่างริต้าเอง กว่าริต้าจะมีวันนี้ริต้าก็ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่อายุ 13 ริต้าก็เลยอยากให้เขาเรียนรู้ว่าทุกอย่างมันไม่ได้ได้มาง่ายดาย ถึงแม้วันนี้เขาจะอยู่ดีกินดี แต่เขาก็ต้องรู้จักแบ่งปันด้วยเหมือนกัน”

เสียใจไหมที่คนเข้าใจเจตนาเราผิด ?
ริต้า : “ไม่นะคะ ริต้าอยู่ตรงนี้มานาน อยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว เราเองก็เจอมาหลากหลายรูปแบบแล้วค่ะ นานาจิตตัง ทุกคนสามารถคอมเมนต์ได้ เพราะในอีกมุมก็ยังมีคนเขาเข้าใจริต้าด้วยเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลย แต่สุดท้ายแล้วเราก็อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเรานั่นแหละค่ะ”