นอกจากเป็นพระเอกที่ฝีมือทางการแสดงไม่ธรรมดาแล้ว หนุ่ม “เจษ เจษฎ์พิพัฒ” ยังมีอีกหนึ่งความสามารถโดดเด่นคือ “การร้องเพลง” และ “เล่นดนตรี” แต่อีกหนึ่งความฝันของ “เจษ” คือการได้เป็น “นักร้อง” มีผลงานเพลงของตัวเอง ล่าสุดเหมือนฝันเป็นจริง เพราะเจ้าตัวบอกว่าตอนนี้กำลังจะมีซิงเกิลเป็นของตัวเองแล้ว
“ผมกำลังจะมีเพลงครับ จริงๆ ทำเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะทำมาตั้งแต่ต้นปีถึงกลางปีที่ผ่านมา ทำมาตลอด ทำเพลง ทำเอ็มวีต่างๆ นานา คิดเองเยอะมาก แล้วที่มันยากเพราะว่าเราเล่นเองด้วย ตีกลองอย่างเดียว เพราะเอาจริงๆ เล่นกลองแล้วก็ร้องยังยากลำบากเลย สมมติถ้าต้องไปร้องที่ไหนจะทำยังไง”
อันนี้คือฟอร์มวงมาเลยใช่ไหม
“จริงๆ คือมีพี่ชายเล่นด้วย พี่ชายเล่นเปียโน่และเล่นกีตาร์ (สสมติถ้าต้องไปโชว์งานต่างๆ ก็ต้องพาพี่ชายไปด้วยใช่ไหม) ไม่รู้ว่าเขาว่างหรือเปล่า ถ้าเกิดเขาว่างนะ (หัวเราะ) คือผมอยากที่จะทำเพลง และเห็นพี่เล่นดนตรี พี่เป็นนักดนตรีอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าทำสักทีก็อยากให้เขามาแจมด้วย”
อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจที่อยากมีเพลงของตัวเอง
“คือเวลาที่มีคนถามว่ามีงานอดิเรกอะไร แล้วเมื่อก่อนฝันอยากเป็นอะไรเราก็ชอบตอบว่า นักดนตรี นักดนตรี งานอดิเรกก็เล่นดนตรี แต่มันรู้สึกว่ามันไม่ได้เล่นสักที เราก็เป็นนักแสดงอย่างเดียว เรารู้สึกว่า… แล้วพอเริ่มรู้จักคน เริ่มมีช่องทาง เลยรู้สึกว่าน่าจะมีคนพอจะช่วยได้ ก็เลยทำเลย”
เพลงที่ทำเป็นแนวไหน
“จริงๆ เป็นแนวที่ผมชอบ เพลงแรกที่ทำก็คิดเลยว่าเป็นแนวที่อยากทำเพลง ก็คือแนวป๊อบร็อกสมัยผมเป็นเด็กๆ ที่ผมเล่นตอนเด็กๆ ประมาณ ซิลลี่ฟูลส์ , อะไรทรงๆ นั้น ช่วงที่ร็อกรุ่งเรือง เป็นช่วงที่ผมเล่นดนตรีพอดี เลยอยากทำเพลงประมาณนั้น เพราะว่าเราชอบ แล้วตอนนี้เราก็เล่นเพลงแบบนั้นอยู่ เรียกว่ามันเป็นการสานฝันเราด้วย”
เห็นว่าทำทุกอย่างเองถึงขั้นที่ว่าไปทุกชั้นของตึก เพื่อหาคนมาทำผลงานเพลงให้
“ใช่ๆ รู้ได้ไงเนี่ย (หัวเราะ) มีพี่ปาล์ม ผู้จัดการช่วยด้วย ตอนแรกก็ปรึกษาว่าจะให้ใครทำให้ที่จะเป็นแนวที่เรารู้สึกว่ามันตรงกับเรา เพราะว่าจริงๆ ไอเดียการแต่งเพลงของผมค่อนข้างจะเป็นศูนย์ เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องอะไร ก็เลยต้องหาคนแต่งให้ แล้วก็ไปได้คนในตึกแกรมมี่นี่แหละครับ โดยเราก็เอาแนวเพลงที่เราอยากจะได้ แล้วก็เนื้อหาที่เราอยากจะเล่าแบบกว้างๆ เสร็จแล้วก็ไปให้พี่เขา (ใครเป็นคนแต่งให้) พี่โอม ค็อกเทล ซึ่งพี่เขาแต่งมาได้ถูกใจผมมาก”