ถึงแม้ว่ารายได้ช่วงเปิดตัว (dubut) จะต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์รวมไปถึงทางสตูดิโอดิสนีย์เอง แต่อย่าเพิ่งประเมิน Avatar: The Way of Water ต่ำเกินไปนัก
เพราะตอนนี้ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ ไปได้เป็นที่เรียบร้อยภายในเวลาเพียง 14 วัน ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ของโลกเท่านั้นที่สามารถก้าวข้ามเส้นนี้ได้ภายใน 2 สัปดาห์แรก แล้วก็ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำได้นับตั้งแต่ ‘Spider-Man: No Way Home’ ที่ออกฉายเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
สตูดิโอดิสนีย์รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา The Way of Water ทำรายได้ในแถบอเมริกาเหนือไป 23.8 ล้านดอลลาร์ บวกกับรายได้ทั่วโลกอีก 50.8 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมรายได้ทั่วโลกพุ่งทะลุ 1,029 ล้านดอลลาร์ไปได้เรียบร้อย โดยมีจีนเป็นประเทศที่ทำเงินไปมากสุด 108 ล้านดอลลาร์
การพุ่งทะลุหลักพันล้านดอลลาร์ของ The Way of Water ได้ในครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการปล่อยหนังช่วงวันหยุดคริสต์มาสต่อเนื่องปีใหม่นั้นมีส่วนกระตุ้นรายได้ของหนังได้อย่างแท้จริง

สำหรับในปี 2022 นี้ มีภาพยนตร์เพียง 3 เรื่องที่ทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ แต่ Avatar 2 นั้นทำได้เร็วที่สุด ส่วนอีกสองเรื่องได้แก่ Top Gun: Maverick ทำได้ใน 31 วัน และ Jurassic World Dominion ทำได้ในระยะเวลากว่า 4 เดือน
ด้วยความที่ภาพยนตร์ Avatar ภาคแรกที่ออกฉายเมื่อ 13 ปีก่อนนั้น ยังคงครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยรายได้ 2,900 ล้านดอลลาร์ ทั่วโลก ทำให้ตอนที่เดินสายโปรโมทหนัง The Way of Water นั้น เจมส์ คาเมรอน ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้เขียนบท และโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ถึงกับออกปากว่า ถ้าทำรายได้ไม่ถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ คนก็คงจะไม่มองว่า Avatar 2 ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ใช้งบประมาณในการก่อสร้างอย่างน้อย 350-400 ล้านดอลลาร์ ไม่รวมงบประมาณด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์
เจมส์ คาเมรอน ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะทำภาพยนตร์อวตารออกมาถึง 5 ภาคด้วยกัน แต่ภาคต่อไปจะไม่ทิ้งห่างกันมากเหมือนภาคแรกกับภาคที่สองอีกแล้ว โดยภาค 3 นั้นมีกำหนดเข้าฉาย ธันวาคม 2024, ภาค 4 ธันวาคม 2025 และภาค 5 ปลายปี 2027
อย่างไรก็ตาม การสร้างหนังหลายภาคแบบนี้ เจมส์ คาเมรอน ต้องเจอกับเรื่องหนักใจอย่างหนึ่ง นั่นคือ บรรดานักแสดงเด็ก ๆ ที่เป็นตัวชูโรงในภาค 2 นี้โตกันเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็น ทูค (รับบทโดย ทรินิตี้ โจ-ลี บลิส วัย 13 ปี) และสไปเดอร์ (รับบทโดย แจ็ค แชมเปียน วัย 18 ปี) โดยตอนแรกที่คาสตัวมาเล่น Avatar 2 นั้น แชมเปี้ยนอายุ 12 ปี ขณะที่บลิสมีอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น
แต่เจมส์ คาเมรอน ได้แก้ปัญหานี้เอาไว้แล้วด้วยการถ่ายภาค 2, ภาค 3 แล้วก็ช่วงแรกของ อวตาร 4 พร้อมกันทีเดียว ทำให้วัย และรูปร่างหน้าตาของตัวละครเด็กเหล่านี้ยังดูเหมือนเดิม